งานวิจัยยืนยัน "Nanotyrannus" เป็นไดโนเสาร์คนละสายพันธุ์กับไทแรนโนซอรัส

วันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา งานวิจัยยืนยันนาโนไทแรนนัส แลงเซนซิส (Nanotyrannus lancensis) เป็นไดโนเสาร์คนละสายพันธุ์กับไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus rex) โดยก่อนหน้านี้มีการค้นพบซากฟอสซิลของสัตว์นักล่าที่ถูกค้นพบในสุสานไดโนเสาร์ครีเทเชียส และเชื่อว่าซากดังกล่าวเป็นลูกของไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus rex)
ในเวลาต่อมีนักวิทยาศาสตร์หลายคนยังคงถกเถียงกันว่ามันเป็นลูกของไทแรนโนซอรัส หรือเป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่มานานหลายทศวรรษ การวิเคราะห์ซากเหล่านี้ ซึ่งเป็นโครงกระดูกที่เกือบจะสมบูรณ์และเป็นส่วนหนึ่งของฟอสซิลที่เรียกว่า การดวลของไดโนเสาร์ (Dueling Dinosaurs) หรือฟอสซิลการต่อสู้ของไดโนเสาร์ (Battle fossil)
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยืนยันว่านาโนไทแรนนัส แลงเซนซิส (Nanotyrannus lancensis) เป็นสปีชีส์ที่แตกต่างกัน โดยใช้ผลการวิเคราะห์โครงกระดูกที่เกือบสมบูรณ์นี้ได้ยุติข้อถกเถียงดังกล่าว
การค้นพบครั้งนี้มาจากไหน
ทีมวิจัยนำโดยนักบรรพชีวินวิทยาลินด์เซย์ ซานโน (Lindsay Zanno) จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนอร์ทแคโรไลนา (North Carolina State University) และเจมส์ นาโปลี (James Napoli) จากพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งนอร์ทแคโรไลนา (North Carolina Museum of Natural Sciences) ได้ทำการสำรวจทางกายวิภาคศาสตร์อย่างละเอียดและเป็นระบบของตัวอย่างที่เรียกว่า Dueling Dinosaurs เพื่อแก้ไขวิกฤตเอกลักษณ์ของไทแรนโนซอร์ริดตัวนี้
กระบวนการตรวจสอบพวกเขาให้ความสนใจเป็นพิเศษกับลักษณะต่าง ๆ เช่น วงแหวนการเจริญเติบโต ข้อมูลการหลอมรวมของกระดูกสันหลัง และกายวิภาคศาสตร์ เพื่อประเมินวุฒิภาวะของสัตว์ ณ เวลาที่ตาย
ผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า ตัวอย่างดังกล่าวเติบโตเต็มที่แล้ว และน่าจะมีน้ำหนักประมาณ 680 กิโลกรัม ซึ่งมีขนาดประมาณน้ำหนักของหมีขั้วโลก ในทางตรงกันข้ามกับไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus rex) ตัวเต็มวัยโดยเฉลี่ยคาดว่าจะมีน้ำหนักประมาณ 8,000 กิโลกรัม หรือบางตัวอาจมีขนาดน้ำหนักมากกว่านี้
นักวิจัยระบุว่า นาโนไทแรนนัส แลงเซนซิส (Nanotyrannus lancensis) มีลักษณะและโครงสร้างหลายอย่างที่ ไม่มีทางที่จะพัฒนาไปเป็นสัณฐานวิทยาของโครงกระดูกไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus rex) ได้เลย
เจมส์ นาโปลี (James Napoli) ยืนยันหนักแน่นว่า "ถ้าหาก Nanotyrannus เป็นไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus rex) วัยเยาว์จริง มันจะต้องท้าทายทุกสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของสัตว์มีกระดูกสันหลัง มันไม่เพียงแค่ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่มันเป็นไปไม่ได้เลย"
พลิกผันงานวิจัยหลายทศวรรษ
ศาสตราจารย์ลินด์เซย์ ซานโน (Lindsay Zanno) ชี้ว่าการค้นพบนี้มีนัยยะสำคัญอย่างยิ่ง โดยระบุว่า "ฟอสซิลนี้ไม่ได้แค่ยุติข้อถกเถียงเท่านั้น แต่มันยังพลิกงานวิจัยไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus rex) ที่ดำเนินมาหลายทศวรรษ"
เนื่องจากเป็นเวลาหลายปีที่นักบรรพชีวินวิทยาเคยใช้ฟอสซิลของนาโนไทแรนนัส แลงเซนซิส (Nanotyrannus lancensis) เพื่อทำความเข้าใจพัฒนาการของไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus rex) ในวัยเยาว์ การระบุว่าพวกมันเป็นสปีชีส์ที่แตกต่างกันหมายความว่านักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันสามารถสร้างภาพที่แม่นยำยิ่งขึ้นว่าไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus rex) เปลี่ยนแปลงอย่างไรเมื่อเติบโตขึ้น
นาโนไทแรนนัส แลงเซนซิส (Nanotyrannus lancensis) กับบทบาทใหม่ในระบบนิเวศ
การวิจัยนี้ช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์และซับซ้อนซึ่งสัตว์เหล่านี้เคยเจริญเติบโตอยู่
นาโนไทแรนนัส แลงเซนซิส (Nanotyrannus lancensis) นั้นถูกสร้างมาเพื่อความคล่องตัวและความเร็ว มากกว่าพลังการบดขยี้ โดยลินด์เซย์ ซานโน (Lindsay Zanno) อธิบายว่า "การค้นพบนี้ทำให้เกิดภาพที่ชัดและมีการแข่งขันมากขึ้นในช่วงสุดท้ายของยุคไดโนเสาร์"
ในขณะที่ไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus rex) เป็นนักล่าที่น่าเกรงขาม นาโนไทแรนนัส แลงเซนซิส (Nanotyrannus lancensis) เป็นนักล่าที่ผอมเพรียว เร็ว และว่องไวกว่า
นอกจากนี้ ในการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเปรียบเทียบฟอสซิลไทแรนโนซอร์กว่า 200 ชิ้น ทีมวิจัยยังสามารถระบุตัวอย่างอื่นที่เคยถือว่าเป็นไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus rex) วัยเยาว์ ซึ่งมีลักษณะที่เหมือนกับนาโนไทแรนนัส แลงเซนซิส (Nanotyrannus lancensis) ตัวอย่างนี้ถูกระบุว่าเป็นสปีชีส์ที่แตกต่างกันและได้รับการตั้งชื่อว่า นาโนไทแรนนัส แลงเซนซิส (Nanotyrannus lancensis)
งานวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nature เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
