รีเซต

กรมอนามัย เผยวิธีกิน "ขนมไหว้พระจันทร์" อย่างไรไม่ให้อ้วน ไส้ไหนแคลอรีมากสุด?

กรมอนามัย เผยวิธีกิน "ขนมไหว้พระจันทร์" อย่างไรไม่ให้อ้วน ไส้ไหนแคลอรีมากสุด?
TNN ช่อง16
21 กันยายน 2564 ( 12:17 )
57

ข่าววันนี้ (21 ก.ย.64) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า "เทศกาลไหว้พระจันทร์" เป็นเทศกาลของชาวจีนสำหรับระลึกถึงเทพธิดาแห่งพระจันทร์ โดยสิ่งที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลนี้ คือ "ขนมไหว้พระจันทร์" ที่ใช้เป็นเครื่องเซ่นไหว้ แต่ขนมไหว้พระจันทร์มักมีแป้งและน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก อีกทั้งยังมีน้ำมัน น้ำเชื่อม และเมื่อมาผสมกับไส้ต่าง ๆ ที่มีรสชาติหวาน จึงทำให้เป็นขนมที่ให้พลังงานสูงมาก โดยปกติขนมไหว้พระจันทร์ขนาด 1 ชิ้น มีน้ำหนัก 166 กรัม ให้พลังงานสูงถึง 614 - 772 กิโลแคลอรี

 

ซึ่งสูงกว่าอาหารมื้อหลักอย่าง เช่น ข้าวผัดหมู ผัดไทยกุ้งสด ข้าวผัดกะเพราไก่ไข่ดาว หรือเส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว 1 จาน แม้จะตัดแบ่งออกเป็นส่วน ๆ ได้ 6 ชิ้นเล็ก ๆ ก็ยังให้พลังงานถึง 96-120 กิโลแคลอรี

 

จากข้อมูลแสดงคุณค่าทางโภชนาการของขนมไหว้พระจันทร์ไส้ต่าง ๆ ในปริมาณ 100 กรัม พบว่า แต่ละไส้ให้พลังงานแตกต่างกัน หากเป็น "ไส้พุทรา" ให้พลังงาน 338 กิโลแคลอรี "ไส้ทุเรียน" ให้พลังงาน 345 กิโลแคลอรี "ไส้ทุเรียนและไข่" ให้พลังงาน 375 กิโลแคลอรี "ไส้เม็ดบัว" ให้พลังงาน 384 กิโลแคลอรี และ "ไส้เม็ดบัวและไข่" ให้พลังงาน 404 กิโลแคลอรี ตามลำดับ

 

ทั้งนี้ สำหรับในช่วงเทศกาลดังกล่าว ประชาชนมักนิยมเลือกซื้อขนมไหว้พระจันทร์เป็นของฝากผู้ใหญ่ หรือซื้อมากินกันภายในบ้าน จึงแนะนำให้กินขนมไหว้พระจันทร์อย่างเหมาะสม ไม่ควรกินทีเดียวหมดทั้งชิ้น ในวันเดียวและควรเลี่ยงกินขนมหวาน ของหวานประเภทอื่นหรือเครื่องดื่มรสหวานต่าง ๆ หลังจากกินขนมไหว้พระจันทร์

 

เนื่องจากอาจจะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานที่มากเกินความต้องการ ซึ่งแป้งและน้ำตาลจากขนม จะเปลี่ยนไปเป็นไขมันส่วนเกินสะสมตามร่างกาย หากขาดการออกกำลังกาย มีผลทำให้น้ำหนักเพิ่ม อ้วนลงพุง และทำให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมา

 

และสิ่งที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งคือ ก่อนกินขนมไหว้พระจันทร์ทุกครั้ง ต้องดูวันผลิตหรือวันหมดอายุ รวมทั้งสังเกตกลิ่นและสีของขนมว่าผิดปกติหรือไม่หากพบว่ามีกลิ่นและสีที่เปลี่ยนไป ควรงดบริโภคทันทีเพื่อความปลอดภัย

 

ภาพจาก AFP

 

ข่าวเกี่ยวข้อง :

ทำไมเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ต้องมี ขนมไหว้พระจันทร์?

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง