รีเซต

แท็กซี่บินได้ “Lilium” เดินหน้าพัฒนา หลังได้รับอนุมัติจากหน่วยงานการบินยุโรป

แท็กซี่บินได้ “Lilium” เดินหน้าพัฒนา หลังได้รับอนุมัติจากหน่วยงานการบินยุโรป
TNN ช่อง16
1 ธันวาคม 2566 ( 14:31 )
48
แท็กซี่บินได้ “Lilium” เดินหน้าพัฒนา หลังได้รับอนุมัติจากหน่วยงานการบินยุโรป

เรียกได้ว่าสำเร็จไปอีกขั้นสำหรับบริษัทแท็กซี่บินได้พลังงานไฟฟ้าจากเยอรมนี ลิเลียม (Lilium) หลังได้รับอนุมัติจากองค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป หรือ EASA (European Aviation Safety Agency) ให้สามารถออกแบบและดำเนินการผลิต นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับบริษัท ในการเตรียมความพร้อมใช้งานเชิงพาณิชย์


ภาพจาก Lilium

 

ลิเลียม ได้รับการรับรองด้าน "Design Organization Approval" ซึ่งเป็นใบอนุญาตที่ให้สิทธิ์แก่บริษัท ในการออกแบบและผลิตเครื่องบินของตนเอง และเป็นขั้นตอนสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทนั้น ๆ มีความสามารถในการออกแบบและผลิตเครื่องบินพาณิชย์ที่ปลอดภัย และเป็นไปตามมาตรฐาน


โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้มีการพัฒนาและทดสอบแท็กซี่บินได้พลังงานไฟฟ้ามาเป็นเวลาหลายปี ในชื่อ ลิเลียม เจ็ต (Lilium Jet) ซึ่งเป็นอากาศยานพลังงานไฟฟ้า ที่สามารถบินขึ้นและลงในแนวดิ่ง (eVTOL) 


ภาพจาก Lilium

 

โดยจุดเด่นของแท็กซี่บินได้รุ่นนี้ คือการขับเคลื่อนด้วยใบพัดและมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก 36 ตัว ติดตั้งอยู่บริเวณปีกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ใบพัดเหล่านี้สามารถหมุนได้หลายทิศทาง ทำให้ตัวเครื่องสามารถบินขึ้นลงในแนวดิ่งได้ โดยไม่ต้องใช้รันเวย์ อีกทั้งบริษัทเชื่อว่าจะทำให้ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่า บินได้ไกลกว่า และสร้างเสียงรบกวนน้อยกว่าอากาศยานพลังงานไฟฟ้าประเภทอื่น ๆ 


สำหรับตัวห้องโดยสาร สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 7 ที่นั่ง บินด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และถ้าพัฒนาแล้วเสร็จ คาดว่าจะให้ระยะการบินได้ไกลถึง 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาและทดสอบ คาดว่าจะเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2025 นี้


เรียกได้ว่าการได้รับอนุมัติในครั้งนี้ เป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัท ท่ามกลางการแข่งขันที่พุ่งสูงขึ้นในตลาดยุโรป อีกทั้งยังช่วยลดความซับซ้อนในการขอใบรับรองในสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้ ลิเลียม กลายเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่น่าจับตา และไม่แน่ว่าอาจจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้เร็วขึ้นก็เป็นได้


ข้อมูลจาก cnbc, interestingengineering

ข่าวที่เกี่ยวข้อง