น่าเป็นห่วง! คนไทยป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่พุ่ง 2.4 เท่าในรอบ 10 ปี
วันนี้ ( 2 ก.ย. 63 )จากการเสียชีวิตของ แชดวิก โบสแมน ผู้รับบทกษัตริย์ทีชาล่าในภาพยนตร์เรื่อง “Black Panther”ที่เสียชีวิตด้วยวัย43ปี โดยทวิตเตอร์ของแซดวิกรายงานว่า ได้ต่อสู้กับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ระยะที่3มากว่า4ปี จนกระทั่งเสียชีวิตในระยะที่4โดยดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส.กล่าวว่า จากข้อมูลของรายงานจับตาพฤติกรรมสุขภาพคนไทย หรือThaiHealth Watch ร่วมกับ สำนักงานระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ รวบรวมสถิติสถานการณ์สุขภาพคนไทย 10 ปีย้อนหลังรายเขตสุขภาพ ระหว่าง พ.ศ.2552–2561พบว่า คนไทยมีแนวโน้มเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่สูงขึ้น2.4เท่าทั้งเพศหญิงและชาย
โดยในปี2552อัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ในเพศชาย อยู่ที่3.6คนต่อแสนประชากร เพิ่มขึ้นเป็น8.9คนต่อแสนประชากรในปี2561เช่นเดียวกับเพศหญิง ในปี2552อยู่ที่2.8คนต่อแสนประชากร เพิ่มขึ้นเป็น6.7คนต่อแสนประชากรในปี2561ที่น่าสนใจคือคนในเขตเมืองมีแนวโน้มเสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้สูงขึ้น
โดยเฉพาะในเขต กทม. ที่มีจำนวนมากที่สุด15.1คนต่อแสนประชากร ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น1.9เท่าในรอบ10ปี ตามด้วยภาคกลาง10.2คนต่อแสนประชากร ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น2.4เท่า
ดร.นพ.ไพโรจน์กล่าวว่า การปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการมีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสมสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ จากรายงานFood and Agriculture Organization and the World Health Organization(FAO/WHO) พบว่า การบริโภคผักและผลไม้อย่างน้อยวันละ400-600กรัม ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
โดยรายงานวิจัยด้านอาหารโภชนาการและการออกกำลังกายกับการป้องกันมะเร็ง (The Continuous Update Project : CUP) ปี2561พบความสัมพันธ์ระหว่างธัญพืช ผัก และผลไม้ต่อความเสี่ยงของมะเร็ง พบว่า การบริโภคพืชที่เรียกว่า “โฮลเกรน” หรือธัญพืชเต็มเมล็ดที่ไม่ผ่านการขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ลูกเดือย ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักได้ นอกจากนี้การออกกำลังกายจะช่วยระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น
รศ.นพ.ม.ล.ทยา กิติยากร อาจารย์หน่วยโรคทางเดินอาหารและตับ ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลกล่าวว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่เกิดจากความผิดปกติของผนังลำไส้ใหญ่ เกิดได้ทั่วไปในคนธรรมดา แต่มี3สาเหตุที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรค คือ1.พันธุกรรม อาทิ ยีนผิดปกติตั้งแต่เกิด หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็ง2.พฤติกรรมเสี่ยง อาทิ สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่มีกิจกรรมทางกาย และการรับประทานอาหารบางชนิด และ3.โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ซึ่งอัตราการเสียชีวิตด้วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ของคนไทยที่เพิ่มขึ้น2.4เท่า มาจากพฤติกรรมมากกว่าพันธุกรรม
สำหรับประเทศไทยพบแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในเขตเมืองมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่คล้ายตะวันตก ผักน้อย เน้นเนื้อ และมีไขมันสูง รวมถึงภาวะอ้วน จึงควรเพิ่มการรับประทานผัก ลดการกินเนื้อแดง และปิ้งย่าง
“ก่อนที่มะเร็งจะกลายพันธุ์มาจากติ่งเนื้อในลำไส้ใช้เวลาหลายปี จึงเป็นช่วงที่แพทย์และผู้ป่วยอยากตรวจเจอให้เร็วที่สุด เพราะสามารถรักษาให้หายได้ แต่การเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ช่วงต้นอาจจะไม่แสดงอาการ มีเลือดออกปนกับอุจจาระก็อาจจะไม่สังเกตเห็น หรือบางกรณีก็ไม่มีเลือดออกจึงรู้ตัวเมื่อมีอาการเมื่อช่องลำไส้ตีบลง เมื่อถึงระยะนี้ก็จะรักษาให้หายยาก แนะนำให้ตรวจคัดกรองก่อนมีอาการ ซึ่งมีอยู่ 3 ทางเลือกคือ 1.การตรวจอุจจาระเพื่อหาสารปนเปื้อนหรือเลือด ซึ่งวิธีนี้ทาง สปสช. มีโครงการสุ่มตรวจประชาชนเพื่อคัดกรองมะเร็งแล้ว 2.การส่องกล้องเพื่อดูและตัดติ่งเนื้อ และ 3.การทำCT Scanพิเศษส่วนลำไส้”รศ.นพ.ม.ล.ทยากล่าว
ทั้งนี้Thaihealth watch 2564ในเดือนธันวาคม2563นี้ ได้จัดทำข้อมูลจากการเชื่อมโยงสถานการณ์สถิติสุขภาพที่สำคัญ พร้อมจับกระแสความสนใจที่มีการพูดถึงในสังคมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในรอบ 1 ปี และข้อแนะนำที่มีต่อประเด็นทางสุขภาพจากการทำงานของ สสส. ทั้งในระดับปัจเจกบุคคลที่สามารถนำไปใช้ได้จริงและข้อเสนอแนะทางสังคม
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline