วิจัยชี้ "ออกกำลังกาย" ช่วยผู้ป่วย "มะเร็งลำไส้ใหญ่" ไม่กลับเป็นซ้ำถึง 90%

งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Clinical Oncology โดยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เผยข้อมูลที่น่าตื่นเต้นว่า “การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ” สามารถเพิ่มอัตราการอยู่รอดโดยไม่มีการกลับมาของโรคในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อย่างมีนัยสำคัญ หลังได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ไม่มีโรคกลับมาร้อยละ 90.3
การศึกษานี้เป็นการติดตามผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะที่ 2–3 จำนวนกว่า 400 ราย ภายหลังได้รับการผ่าตัดและเคมีบำบัดครบถ้วน โดยแบ่งผู้เข้าร่วมออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มทดลอง ที่เข้าร่วมโปรแกรมการออกกำลังกายอย่างมีโครงสร้าง เป็นเวลา 150 นาทีต่อสัปดาห์ (เช่น เดินเร็ว, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ) ต่อเนื่องตลอด 3 ปี กลุ่มควบคุม ที่ใช้ชีวิตตามปกติ โดยไม่ได้รับคำแนะนำหรือโปรแกรมการออกกำลังกาย
ผลการติดตาม 3 ปีพบว่ากลุ่มที่ออกกำลังกาย มีอัตราการปลอดโรค (Disease-Free Survival) สูงถึงร้อยละ 90.3 กลุ่มควบคุม มีอัตราการปลอดโรคอยู่ที่ร้อยละ 83.2 โดยความแตกต่างนี้มีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การออกกำลังกายมีบทบาทสำคัญต่อการลดความเสี่ยงของการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็ง
การออกกำลังกายไม่ใช่แค่ "เสริมกำลังใจ" แต่ "เสริมภูมิคุ้มกัน"
ดร. จัสติน บราวน์ (Dr. Justin C. Brown) หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า“การออกกำลังกายไม่ใช่เพียงเพื่อความรู้สึกดี แต่ยังส่งผลต่อการทำงานของภูมิคุ้มกัน การลดการอักเสบ และการควบคุมระดับอินซูลินในร่างกาย ซึ่งล้วนมีบทบาทในการป้องกันไม่ให้มะเร็งกลับมาอีก”นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากเคมีบำบัด เช่น อาการเหนื่อยล้าเรื้อรัง (Cancer-related fatigue) อารมณ์ซึมเศร้า และภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง ที่มักพบในผู้ป่วยมะเร็งหลังการรักษา
ผู้ป่วยมะเร็งที่เพิ่งผ่านเคมีบำบัดควรเริ่มโปรแกรมการออกกำลังกายเบา ๆ ภายใต้การดูแลของบุคลากรทางการแพทย์ โดยค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นตามสมรรถภาพ เช่น
- เดินเร็ว 30 นาที วันละ 1 ครั้ง หรือแบ่งเป็น 2 ช่วง เช้า-เย็น
- ปั่นจักรยานหรือว่ายน้ำเบา ๆ 3–5 วัน/สัปดาห์
- เสริมด้วยการออกกำลังกายแบบต้านแรง (Resistance Exercise) สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
