ไฟถนนดับ! หญิงวัย 42 ปี ขี่ จยย. เสียหลักแหกโค้งเสียชีวิต ที่นครนายก

เกิดเหตุสลดหญิงวัย 42 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักพุ่งชนเกาะกลางถนนสามแยกสาริกา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ คาดระหว่างขับขี่มองไม่เห็นทาง เนื่องจากไฟส่องสว่างบริเวณที่เกิดเหตุดับเป็นระยะทางยาว

เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. กู้ชีพตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก ได้รับเหตุมีผู้ประสบเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักล้มอยู่บริเวณณถนนสาย 3049 นครนายก – สาลิกา บริเวณสามแยกสาลิกา หมู่3 จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ฮฮนด้าสีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน3 กน 60 กทม สภาพล้มตะแคงข้าง ห่างออกไปไม่มากนักพบร่างหญิงรายหนึ่ง จึงได้ตรวจสอบและพบว่าเสียชีวิตแล้ว ตรวจดูเอกสารในร่างกายพบบัตรประจำตัวประชาชน ชื่อนางสาว ชฎาพร แก้วโพดา อายุ 42 ปี เป็นชาวจังหวัดขอนแก่น สภาพศพร่างนอนหงายอยู่บนเกาะกลาง ช่วงทางโค้ง มีเลือดออกที่ศีรษะและใบหน้าเปื้อนเลือด มีหูฟังโทรศัพท์ที่ลำคอ

จากการสอบถามนายกิตติทัช ลาภา อายุ 19 ปี ชาวบ้านที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุที่ออกมาดูเหตุการณ์ ได้บอกว่า ตอนเวลาประมาณ 02.00 น. ตนกำลังอาบน้ำ ได้ยินเสียงเหมือนอะไรขูดกับถนนก่อนจะได้ยินเสียงเหมือนรถล้มดังขึ้น จากนั้นตนจึงรีบออกจากห้องน้ำไปหยิบไฟฉายแล้วออกมายังที่เกิดเหตุ เพราะกลัวว่าหากมีผู้บาดเจ็บ อาจจะมีรถที่ขับตามมาเฉี่ยวชนซ้ำได้ เมื่อมาถึงตนเห็นผู้บาดเจ็บอยู่ในสภาพนอนคว่ำหน้าหายใจเบา มีเลือดไหล ซึ่งในที่เกิดเหตุไฟส่องสว่างได้ดับตั้งแต่บริเวณหน้าวัดตำหนักจนถึงหัวสะพานตั้งแต่ช่วงเย็น

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุหลังจากที่นายกิตติทัช ให้ข้อมูลว่าไฟส่องสว่างบนถนนบริเวณที่เกิดเหตุนั้นดับนั้น พบว่ามีไฟดับเป็นระยะทางประมาณ 100-200 เมตร แต่พอเลยจากจุดนี้ไฟ ไฟส่องสว่างก็ใช้ได้ ซึ่งบริเวณที่ไฟดับนั้นเป็นช่วงบริเวณสามแยก ที่มีลักษณะเป็นทางโค้ง แต่โชคดีที่เหตุเกิดเวลากลางดึกจึงทำให้ไม่มีรถสัญจรมากเหมือนช่วงเวลากลางวัน

จากนั้นกู้ชีพ อบต. สาริกา ได้นำโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิต ค้นหาเบอร์ญาติก่อนที่จะโทรหาผู้หญิงคนหนึ่งที่สามารถติดต่อได้ในขณะนั้นเพื่อแจ้งว่า นางสาว ชฎาพร แก้วโพดา ได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และขอให้ช่วยติดต่อญาติให้ทราบต่อไป