เงินฌาปนกิจไม่โปร่งใสจริงไหม ยกเครื่องระบบคุ้มครองสมาชิก

“เงินฌาปนกิจเห็นว่ากรรมการชอบเอาเงินไปใช้เองจริงหรือ” “เก็บเงินได้เท่าไร เคยชี้แจงไหม” และ “ถ้ากลุ่มล้ม เงินที่จ่ายไปคืออะไร” คือชุดคำถามจากโพสต์ของทนายพัฒน์ที่ถูกแชร์หลายพันครั้ง ภายในเวลาไม่นานก็กลายเป็นประเด็นสาธารณะ เพราะแตะจุดเจ็บของครอบครัวรายได้น้อยที่ฝากความหวังไว้กับเงินสงเคราะห์เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
บทความนี้ไล่เรียงตามข้อเท็จจริง โครงสร้างของกองทุนฌาปนกิจ ปัจจัยเสี่ยง ผลกระทบ และแนวทางทำให้ระบบช่วยกันของชุมชนเดินต่อได้อย่างยั่งยืน
เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ คืออะไร ทำไมผู้คนพึ่งพา
เงินฌาปนกิจสงเคราะห์เกิดจากการรวมตัวกันช่วยค่าจัดการศพและดูแลผู้อยู่ข้างหลัง ไม่ใช่ประกันชีวิตและไม่ใช่การลงทุน รายรับหลักมาจากการ “เก็บต่อเหตุ” คูณจำนวนสมาชิกตามอัตราที่กำหนด แล้วหักค่าบริหาร กองทุนที่มีสมาชิกมากจะจ่ายต่อศพได้สูง แต่ก็ต้องอาศัยวินัยการเก็บและข้อมูลสมาชิกที่เที่ยงตรง
จุดเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ของกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์
ปัญหาหลักที่ทำให้หลายกองทุนฌาปนกิจล้ม หรือมีแนวโน้มขาดเสถียรภาพ มักเริ่มจาก จุดเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ในระบบบริหารจัดการภายใน ซึ่งส่วนใหญ่สมาชิกไม่รู้ตัวจนเกิดปัญหาขึ้นแล้ว
ธรรมาภิบาลต่ำ บัญชีไม่โปร่งใส ตรวจสอบยาก
หลายกองทุนไม่มีระบบตรวจสอบภายในที่ชัดเจน รายรับ–รายจ่ายไม่เปิดเผยต่อสมาชิก บางแห่งขาดผู้สอบบัญชีภายนอก ทำให้ตรวจสอบไม่ได้ว่าเงินสมทบถูกใช้ไปอย่างถูกต้องหรือไม่
ข้อมูลสมาชิกคลาดเคลื่อน เรียกเก็บไม่ครบจริง
ฐานข้อมูลสมาชิกบางแห่งไม่อัปเดต ทำให้มีปัญหา “สมาชิกผี” หรือการเรียกเก็บเงินสมทบไม่ครบ ส่งผลให้กองทุนขาดรายได้จริงและสะสมความเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว
สภาพคล่องตึง เมื่อมีผู้เสียชีวิตใกล้เคียงกันจำนวนมาก
หากมีสมาชิกเสียชีวิตในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน กองทุนอาจต้องจ่ายเงินช่วยเหลือจำนวนมากพร้อมกัน จนเงินในกองกลางไม่พอใช้ และไม่มีระบบบริหารกระแสเงินสดรองรับ
ขาดกองทุนสำรองขั้นต่ำและแผนบริหารความเสี่ยง
หลายกลุ่มไม่มีการกันเงินสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน หรือแผนรับมือความเสี่ยงทางการเงิน เช่น กรณีสมาชิกลดลง หรือรายจ่ายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
การเปิดเผยข้อมูลไม่สม่ำเสมอ สมาชิกไม่รู้สิทธิและตัวเลขจริง
สมาชิกส่วนใหญ่ไม่ทราบสถานะทางการเงินของกองทุน ไม่มีรายงานผลประกอบการหรือยอดเงินคงเหลือที่อัปเดต ทำให้ขาดความเชื่อมั่นและไม่สามารถปกป้องสิทธิของตนได้
โดยรวมแล้ว จุดเสี่ยงเหล่านี้หากไม่ได้รับการแก้ไขเชิงโครงสร้าง จะทำให้กองทุนฌาปนกิจหลายแห่งเผชิญปัญหาซ้ำซาก และบั่นทอนความเชื่อมั่นของสมาชิกในระยะยาว
ทำไม “กลุ่มล้ม” แล้วเจ็บหนัก
เมื่อกองทุนสะดุด การจ่ายเงินอาจล่าช้าหรือไม่ครบครัน ครอบครัวต้องรับภาระฉุกเฉินทันที กระบวนการร้องเรียน–คดีความใช้เวลานาน และที่ผ่านมาไม่มี “เบาะคุ้มครองเงินสะสม” แบบสถาบันการเงิน จึงเกิดคำถามสาธารณะว่าควรมีมาตรการปกป้องขั้นต่ำสำหรับสมาชิกหรือไม่
เทียบกับประกันชีวิต
ประกันชีวิตอยู่ใต้กติกากำกับเฉพาะ มีเงินกองทุนและสิทธิเรียกร้องชัดเจน ค่าเบี้ยขึ้นกับความเสี่ยงรายบุคคล ส่วนฌาปนกิจคือการเฉลี่ยทุกข์ร่วมกัน ต้นทุนต่อเหตุอาจต่ำกว่า แต่ความมั่นคงขึ้นกับวินัยกองทุนและความโปร่งใส
เช็กลิสต์ประชาชนก่อนสมัครหรือคงสมาชิกภาพ
• ตรวจทะเบียน–ข้อบังคับล่าสุด รายชื่อกรรมการและวาระ
• ขอรายงานการเงินย้อนหลังอย่างน้อย 3 ปี พร้อมจำนวนสมาชิกที่ตรวจสอบได้
• ดูสูตรเก็บเงิน อัตราค้างชำระ และ “กองทุนสำรองต่อภาระจ่ายเฉลี่ย”
• มีเว็บไซต์หรือสื่อสาธารณะอัปเดตทุกเดือนหรือไม่
• มีผู้สอบบัญชีอิสระและช่องทางร้องเรียนที่ติดตามผลได้จริง
นักวิชาการ และนักกฎหมายหลายฝ่าย เสนอ “ทางออกเชิงนโยบายเร่งด่วน” เพื่อแก้ปัญหาความไม่โปร่งใสของกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ โดยเสนอให้ภาครัฐบังคับเปิดเผยงบรายไตรมาสผ่านแดชบอร์ดสาธารณะ แสดงตัวชี้วัดสำคัญ เช่น อัตราค้างชำระและระยะเวลาการจ่ายเงิน พร้อมตั้งกองทุนกันชนสำหรับกรณีล้ม เพื่อลดความเสี่ยงต่อสมาชิก โดยเชื่อมสิทธิคุ้มครองกับระดับความโปร่งใสของแต่ละกลุ่ม ใครเปิดเผยข้อมูลมากจะได้รับความคุ้มครองสูงขึ้น
อีกแนวทางคือให้มีการกำกับตรวจสอบภาคสนามร่วมกับภาคประชาชน ไม่จำกัดแค่ตรวจเอกสาร รวมถึงจัดทำฐานข้อมูลกลางเชื่อมโยงทะเบียนเกิด–ตาย เพื่อลดช่องว่างและป้องกันการทุจริต พร้อมยกระดับความรู้ของสมาชิก โดยกำหนดให้ผู้สมัครผ่านหลักสูตรอบรมสั้นเกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ และความเสี่ยงทางการเงินก่อนเข้าร่วมกองทุน เพื่อให้ระบบฌาปนกิจมีความยั่งยืน โปร่งใส และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
เงินฌาปนกิจคือสัญญาแห่งความไว้ใจของชุมชน ถ้าข้อมูลไม่เปิดเผยและกติกาไม่ชัด สัญญานี้จะเปราะบางที่สุดในวันที่ครอบครัวต้องการความช่วยเหลือ การตั้งมาตรฐานโปร่งใส กองทุนกันชน และการมีส่วนร่วมตรวจสอบ คือสามเสาหลักที่ทำให้ระบบช่วยกันของไทยน่าเชื่อถือขึ้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
