ทรัมป์-สี จิ้นผิง แยกย้าย สรุปดีลบนโต๊ะเจรจา ลดภาษี-คุยแร่หายาก ไม่ถกไต้หวัน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่กำลังโดยสารเครื่องบิน Air Force One กลับสหรัฐฯ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงประเด็นต่าง ๆ ที่เขาได้หารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ที่เพิ่งจบลงไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่ทรัมป์เรียกว่าเป็น “ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่” มีประเด็นอะไรที่สองผู้นำชาติมหาอำนาจหารือกันบ้าง TNN World สรุปมาให้อ่านแล้ว

-การประชุมที่ดีแบบ 12 เต็ม 10

ทรัมป์เริ่มต้นพูดคุยกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบิน Air Force One โดยเรียกการประชุมระหว่างเขาและสี จิ้นผิง ว่าน่าอัศจรรย์ และยืนยันคำเดิมว่าสี จิ้นผิง คือผู้นำที่ดี ซึ่งเมื่อมีผู้สื่อข่าวถามทรัมป์ว่าหากให้คะแนนการประชุมนี้ 1 ถึง 10 เขาจะให้คะแนนเท่าไหร่ ซึ่งทรัมป์กลับตอบว่าให้ 12 คะแนนเลย ตอกย้ำว่าการประชุมนี้เป็นไปด้วยดีเกินความคาดหมาย

-ประเด็น “ภาษีศุลกากร” และ “เฟนตานิล”

ทรัมป์เปิดเผยว่า สหรัฐฯ ตกลงที่จะลดภาษีสินค้าทุกประเภทจากจีนที่แต่เดิมคือ 57% ตามที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้เหลือ 47% ซึ่งจะมีผลในทันที เช่นเดียวกันจีนตกลงที่จะเริ่มซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ในปริมาณมหาศาล หลังจากคว่ำบาตรมานานหลายเดือนรวมถึงจะซื้อผลผลิตทางการเกษตรอื่น ๆ จากสหรัฐฯ ด้วย ซึ่งทรัมป์กล่าวว่าเขารู้สึกชื่นชมอย่างยิ่ง

ทรัมป์กล่าวว่าการลดภาษีให้กับจีนเป็นการตอบแทนที่ “การดำเนินการจริงจัง” ของจีน โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐฯ ได้กล่าวหาจีนมานานว่าไม่จริงจังต่อการหยุดการนำเข้าของสารตั้งต้นเฟนตานิลไปยังเม็กซิโก ซึ่งสารเหล่านี้จะถูกแปรรูปเป็นยาเสพติดร้ายแรงก่อนถูกลักลอบนำข้ามพรมแดนทางใต้เข้าสู่สหรัฐฯ

ทรัมป์เคยกล่าวถึงภาษีเฟนตานิลว่าสหรัฐฯ จะเก็บในอัตรา 10% เมื่อเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่ผ่านมา แต่ในการหารือกับสี จิ้นผิงครั้งนี้ ทรัมป์ประกาศว่าเขาจะยกเลิกภาษีเหล่านั้น หลังจีนตกลงว่าจะทำงานอย่างหนักเพื่อปราบปรามเครือข่ายลักลอบขนส่งที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นสาเหตุของวิกฤติยาเสพติดในสหรัฐฯ

-ประเด็น “แร่หายาก” (Rare earth)

แร่หายากถูกนำมาหารือบนโต๊ะเจรจา ทรัมป์เปิดเผยเพียงว่าประเด็นเรื่องแร่หายากทั้งหมดได้รับการแก้ไขแล้วเพื่อโลกทั้งใบ และจะ “ไม่มีอุปสรรค” จากฝั่งจีนเกี่ยวกับเรื่องแร่หายากอีก และจีนจะเลื่อนการบังคับใช้นโยบายควบคุมการส่งออกออกไปเป็นเวลา 1 ปี สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้จีนได้ประกาศมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก ในฐานะที่จีนเป็นผู้ผลิตแร่หายากรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยคิดเป็นประมาณ 60% จนก่อให้เกิดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เพิ่มมากขึ้น

-ประเด็น “สงครามรัสเซีย-ยูเครน”

ทรัมป์เปิดเผยว่าฝั่งจีนตกลงที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับความขัดแย้งรัสเซียและยูเครน หลังจากหารือเรื่องนี้เป็นเวลานาน ทรัมป์กล่าวด้วยว่าทั้งเขาและสี จิ้นผิง เห็นตรงกันว่าตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังต่อสู้กันอยู่ แต่บางครั้งก็ต้องปล่อยให้พวกเขาต่อสู้ไปตามเรื่อง แต่แน่นอนว่าจีนจะให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในประเด็นนี้

-ประเด็น “ไต้หวัน”

ทรัมป์เผยว่าประเด็น "ไต้หวัน" ไม่ถูกยกขึ้นมาหารือในการพบปะกันครั้งนี้ ซึ่งก่อนการเจรจาในวันนี้มีความกังวลว่าไต้หวันอาจกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการประชุมที่ทุกฝ่ายรอคอยระหว่างสองมหาอำนาจของโลก ขณะที่ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเคยกังวลว่าทรัมป์อาจเปลี่ยนแปลงนโยบายสหรัฐฯ ที่มีมายาวนานต่อไต้หวันเพื่อแลกกับข้อเสนอจากจีน ซึ่ง NBC เคยคาดการณ์ไว้ว่าทรัมป์อาจกล่าวว่าสหรัฐฯ “คัดค้าน” การปลอดแอกของไต้หวัน เป็นแทนที่จะบอกว่า “ไม่สนับสนุน” แต่ว่าเรื่องนี้ก็ไม่ถูกหยิบขึ้นมาหารือในที่ประชุม

-ทรัมป์จะเยือนจีน และสี จิ้นผิง จะเยือนสหรัฐฯ

ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายนปีหน้า (2026) และเขาได้เชิญให้สี จิ้นผิง เยือนสหรัฐฯ ด้วย แต่ยังไม่มีกำหนดเวลาที่ชัดเจน ทรัมป์กล่าวว่าสี จิ้นผิง อาจเยือนสหรัฐฯ หลังเขาไปเยือนจีนและเป็นไปได้ว่า สี จิ้นผิง อาจเดินทางมาที่กรุงวอชิงตันดี.ซี หรือ ปาล์ม บีช ในรัฐฟลอริดา

-ทรัมป์จะกลับมาเกาหลีใต้เพื่อพบ “คิม จอง-อึน”

นอกเหนือจากการพูดคุยกับสี จิ้นผิง ทรัมป์เปิดเผยบนเครื่องบิน  Air Force One  ว่าเขาจะกลับมาเกาหลีใต้อีกครั้ง และครั้งนี้หวังว่าจะได้พบ คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ทรัมป์กล่าวว่าครั้งนี้เขามีตารางงานที่ยุ่งมากเกินไปที่จะไปพบกับคิมได้ พร้อมกับยืนยันว่าความสัมพันธ์ของเขาและคิมนั้นยอดเยี่ยม และหากตัวเขาไม่ได้รับการเลือกตั้งให้กลับมาเป็นผู้นำสหรัฐฯ คิม จอง-อึน ก็คงไม่ชอบใครอีกนอกจากตัวทรัมป์และอาจเกิดสงครามขึ้นในที่สุด