รีเซต

เปิดข้อมูล "หญิงตั้งครรภ์" ติดโควิด เสี่ยงอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไปถึง 3 เท่า!

เปิดข้อมูล "หญิงตั้งครรภ์" ติดโควิด เสี่ยงอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไปถึง 3 เท่า!
TNN ช่อง16
13 สิงหาคม 2564 ( 15:46 )
110
เปิดข้อมูล "หญิงตั้งครรภ์" ติดโควิด เสี่ยงอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไปถึง 3 เท่า!

วันนี้( 13 ส.ค.64) ที่ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เผยข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ มีข้อมูลทางสถิติ จากวันที่ 1 ธันวาคม 2563 ถึง 11 สิงหาคม 2564 พบ กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ติดเชื้อรวม 1,993 ราย เป็นกลุ่มคนไทย 1,315 ราย เป็นต่างด้าว 678 รายเป็นกลุ่มทารกติดเชื้อ 113 ราย มีมารดาเสียชีวิต 37 ราย เป็นทารกที่เสียชีวิต 20 ราย ทั้งนี้ในกลุ่มผู้ติดเชื้อพบเป็นผู้ที่เคยรับวัคซีนแล้ว 10 ราย  

 

ส่วนของข้อมูลการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มสตรีมีครรภ์ จนถึงวันที่ 11 สิงหาคม มีหญิงตั้งครรภ์ได้รับวัคซีนเข็มที่หนึ่งแล้ว 7,935 ราย  รับครบสองเข็ม 574 ราย 

 

ทั้งนี้ ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ โควิด-19 มีผู้เสียชีวิต 37 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตก่อนคลอด 16 ราย เสียชีวิตหลังคลอด 16 ราย โดยทุกรายเป็นการผ่าคลอด ไม่มีข้อมูลอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 5 ราย  โดยสาเหตุของการเสียชีวิต พบปอดอักเสบจากการติดเชื้อ โควิด-19 จำนวน 35 ราย , รกลอกตัวก่อนกำหนด 1 ราย , น้ำคร่ำอุดกั้นปอด  1 ราย

 

ส่วนของทารกหลังคลอดจากที่มีแม่ติดเชื้อขณะคลอดมี 16 ราย พบทารกปกติไม่ติดเชื้อ 6 ราย ทารกติดเชื้อ 2 ราย และทารกเสียชีวิต 5 คนส่วนอีก 3 รายไม่มีข้อมูล 

 

โดยพบว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ มีการติดเชื้อเกิดจากบุคคลในในครอบครัว เช่น ติดเชื้อจากสถานที่ทำงาน ตลาด งานเลี้ยง และมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เสียชีวิตด้วย เช่น ภาวะอ้วน ตั้งครรภ์ในช่วงอายุมากกว่า 35 ปี มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงมีการใช้สารเสพติดอื่น 

 

นายแพทย์ สุวรรณชัย ได้ระบุเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลการศึกษาชี้ว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19  มีความเสี่ยงที่โรคจะรุนแรงกว่าคนทั่วไปถึง 3 เท่า ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ให้กลุ่มหญิงตั้งครรภ์เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับวัคซีนเพื่อลดความรุนแรงของโรคในกรณีที่เกิดการติดเชื้อ

 

ด้าน พลอากาศโท นพ.การุณ เก่งสกุล ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ในกรณีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด -19 ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนสูงในระหว่างการตั้งครรภ์ เกิดการแท้ง การคลอดก่อนกำหนด รวมถึงทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ง่ายกว่าปกติ และหากคลอดมีโอกาสที่ลูกจะติดเชื้อจากแม่สูง จึงมีความจำเป็นที่กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ต้องเร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนไม่ว่าจะเป็นวัคซีนชนิดใดก็ตาม ซึ่งในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์สามารถใช้วัคซีนสลับชนิดได้ยืนยันว่ามีความปลอดภัยไม่พบก่อเกิดผลข้างเคียงต่อการตั้งครรภ์ 

 

การรักษาหญิงตั้งครรภ์นั้น ในการให้ยาของกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ มียาหลายกลุ่มที่ไม่สามารถใช้กับกลุ่มหญิงตั้งครรภ์เพื่อการรักษา หนึ่งในนั้นคือ ยาฟาวิพิราเวียร์ ที่มีข้อบ่งชี้การใช้ชัดเจนว่าห้ามใช้ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์  ยาหลักที่ใช้จึงเป็นกลุ่มยา เรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) ซึ่งจะใช้ในกลุ่มอาการหนัก 

 

ส่วนของการคลอดนั้น ทั้งการผ่าคลอดและการคลอดเองตามธรรมชาติมีโอกาสที่ทารกจะรับเชื้อจากแม่ได้ โดยที่ผ่านมาในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ 1,993 ราย มีการฝ่าคลอดไปแล้ว ร้อยละ 54 

 

และการคลอดเองร้อยละ 46 

 

ทั้งนี้ จากจำนวนผู้ ผู้ป่วย โควิด-19 ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในสถานพยาบาลจำนวนมาก การเข้าถึงการรักษาของกลุ่มหญิงตั้งครรภ์เป็นเรื่องยาก แต่ก็ยังสามารถบริหารจัดการได้ สำหรับการรับ

 

กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่มีกำหนดคลอดในแต่ละช่วง พร้อมยืนยันว่า การฉีดวัคซีนในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์จำเป็นและสามารถรับวัคซีนชนิดใดก็ได้ มีความปลอดภัยต่อแม่และทารกในครรภ์

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง