รีเซต

PTTGC เผย Q2/67 พลิกมีกำไร 1,845.82 ลบ. มีกำไรพิเศษหนุน

PTTGC เผย Q2/67 พลิกมีกำไร 1,845.82 ลบ. มีกำไรพิเศษหนุน
ทันหุ้น
8 สิงหาคม 2567 ( 17:29 )
46
PTTGC เผย Q2/67 พลิกมีกำไร 1,845.82 ลบ. มีกำไรพิเศษหนุน

#PTTGC #ทันหุ้น-บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ไตรมาส 2/67 มีกำไร 1,845.82 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุน 5,591.40 ล้านบาท และดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/67 ที่ขาดทุน 606 ล้านบาท 

 

ส่วนรายได้จากการขายไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 167,054 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสก่อน 

 

ในไตรมาส 2/67 Adjusted EBITDA อยู่ที่ 9,662 ล้านบาท ปรับลดลงร้อยละ 13 จากไตรมาส 1/67โดยสาเหตุหลักจากการอ่อนตัวของผลประกอบการของธุรกิจโรงกลั่นตามค่าการกลั่นเฉลี่ยที่ลดลงจากส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงเป็นหลัก และการปรับลดลงของธุรกิจอะโรเมติกส์จากส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์พลอยได้โดยเฉพาะ Condensate Residue ที่ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดีเซลเป็นสำคัญ 

 

อย่างไรก็ตามธุรกิจขั้นกลางและธุรกิจโพลิเมอร์และเคมีภัณฑ์มีผลประกอบการที่ปรับเพิ่มขึ้นจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ฟีนอลและส่วนต่างราคาเม็ดพลาสติกโพลิเอทิลีนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเป็นหลัก 

 

**กำไรพิเศษหนุน

 

ทั้งนี้บริษัทฯยังคงดำเนินการด้านการเงิน โดยในไตรมาส 2/67บริษัทฯบันทึกกำไรพิเศษ 2 รายการได้แก่ การซื้อคืนหุ้นกู้สหรัฐจำนวน 749 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายใต้แผนการดำเนินการลดภาระหนี้สิน (deleveraging) เพื่อรักษาอันดับความน่าเชื่อถือ (credit rating) คิดเป็นกำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้ดังกล่าว 2,895ล้านบาท 

 

และกำไรจากการขายหุ้นของบริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด (“PTT Digital”) ให้แก่บริษัทย่อยของบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ในสัดส่วนร้อยละ 20 หรือคิดเป็นมูลค่าขาย 1,023 ล้านบาท เพื่อปรับสัดส่วนการถือหุ้นในธุรกิจบริการเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท โดยมีกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทร่วมรับรู้ในงบกำไรขาดทุนรวม 247.5 ล้านบาท 

 

นอกจากนี้บริษัทฯ รับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปกติ/ควบคุมไม่ได้ ได้แก่ กำไรจากสต๊อกน้ำมันและรายการการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (Stock Gain Net NRV) รวม 154 ล้านบาท กำไรจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยง 826 ล้านบาท กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนและตราสารอนุพันธ์ทางการเงินรวมเป็น 52 ล้านบาท นอกจาก บริษัทฯ รับรู้ส่วนขาดทุนจากเงินลงทุนในไตรมาสนี้จ านวน 135 ล้านบาท โดยเป็นขาดทุนที่ลดลงจากไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ 323 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้นมีผลประกอบการลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีสาเหตุหลักจากผลประกอบการของโรงกลั่นปรับลดลง โดยบริษัทฯรายงานค่าการกลั่น (GRM) ที่ 3.2เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 8.3 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ตามการอ่อนตัวของราคาผลิตภัณฑ์ดีเซลหลังหมดฤดูหนาวเป็นหลัก อีกทั้งธุรกิจอะโรเมติกส์มีผลประกอบการลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า แม้ว่าส่วนต่างราคาพาราไซลีนกับคอนเดนเสทที่ปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์พลอยได้ (By products) ปรับลดลง จากผลิตภัณฑ์ Condensate Residues (CR) โดยราคาปรับลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันดีเซลเป็นสำคัญ ด้านธุรกิจโอเลฟินส์มีผลประกอบการที่ทรงตัวจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาส่วนต่างผลิตภัณฑ์เอทิลีนหักกลบด้วยส่วนต่างผลิตภัณฑ์โพรพิลีนที่ปรับตัวลดลง

 

กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นกลางมีผลประกอบการเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เอทิลีนออกไซด์มีผลประกอบการเพิ่มขึ้นจากปริมาณการขายที่ปรับเพิ่มขึ้นจากการกลับมาผลิตตามปกติหลังโรงเอทิลีนออกไซด์หยุดซ่อมบำรุงตามแผนระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึง เมษายน 2567 เป็นจำนวน 53 วัน อีกทั้งผลประกอบการของธุรกิจที่ใช้วัตถุดิบโพรพิลีนในการผลิตได้รับอานิสงค์ของราคาวัตถุดิบโพรพิลีนที่ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ทำให้ธุรกิจฟีนอลมีผลประกอบการดีขึ้นจากส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์ฟีนอลที่สูงขึ้น ในขณะที่ปริมาณการขายของธุรกิจฟีนอลในไตรมาส 2/2567 ปรับลดลงเล็กน้อยจากการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงบีพีเอในไตรมาส 2/2567 จำนวน 28 วัน อีกทั้งธุรกิจโพรพิลีนออกไซด์มีส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์ที่ปรับเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน

 

กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์และเคมีภัณฑ์มีผลประกอบการเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากราคาเม็ดพลาสติกปรับขึ้นเพิ่มขึ้น โดยมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาวัตถุดิบแนฟทา เนื่องจากอุปทานลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงของผู้ผลิตในภูมิภาคเอเชียและเอเชียตะวันออกกลางจากสถานการณ์ความขัดแย้งในทะเลแดงเป็นหลัก ทำให้เป็นปัจจัยบวกของราคาเม็ดพลาสติกในภาพรวม ในด้านปริมาณการขายเม็ดโพลิเมอร์และเคมีภัณฑ์ปรับลดลงร้อยละ6จากโรงโพลิเอทิลีน LLDPE หยุดซ่อมบำรุงตามแผนจำนวน 37วันในไตรมาส 2/67

 

กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพและผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนมีผลประกอบการอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าเล็กน้อยสาเหตุจากตลาดเมทิลเอสเทอร์ (ME) ยังคงมีความกดดันจากการขยายกำลังการผลิตของผู้ผลิตรายเดิมและราคาผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์ (FA) ที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากความต้องการใช้ในตลาดการผลิตสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและอนามัยส่วนบุคคล (Home and Personal Care) ชะลอตัว จากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา

 

ในขณะที่กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษรายงานผลประกอบการที่เพิ่มขึ้น จากการปรับเพิ่มขึ้นของปริมาณการขายของ allnex ร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับในไตรมาสก่อน เนื่องจากช่วงไตรมาส 1/2567 ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิ กมีวัหยุดเทศกาลตรุษจีนทำให้ปริมาณการขายต่ำกว่า สำหรับการขายในกลุ่มยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) และกลุ่มทวีปอเมริกา (AMER) ยังคงใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตามบริษัท Vencorex ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ HDIderivatives ยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยการแข่งขันทางด้านราคาของผู้ผลิตในตลาด แต่ผลประกอบการที่ปรับปรุงดีขึ้นจากราคาผลิตภัณฑ์หลัก HDI ปรับเพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ

 

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง