เจาะเครื่องบิน KC-135 และ KC-46A เครื่องบินเติมเชื้อเพลิงของอเมริกา ล่าสุดลงจอดในทวีปยุโรปแล้ว

TNN Tech เจาะลึกเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศโบอิง (Boeing) รุ่น KC-135 Stratotanker และ KC-46A Pegasus หรือเรียกย่อ ๆ ว่า KC-46A ของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา หลัง Flightradar24 แพลตฟอร์มติดตามเส้นทางการบินชื่อดัง พบฝูงเครื่องบินอย่างน้อย 28 ลำ มุ่งหน้าข้ามแอตแลนติกไปยังประเทศต่าง ๆ ในยุโรป ได้แก่ เยอรมนี อิตาลี สเปน และอังกฤษ ในช่วงประมาณ 18 - 19 นาฬิกา ของวันที่ 16 มิถุนายน ตามเวลาประเทศไทย
เครื่องบินเติมเชื้อเพลิง Boeing KC-135
Boeing KC-135 เป็นเครื่องบินทางการทหารที่ปรับปรุงมาจากพื้นฐานของเครื่องบินพาณิชย์ Boeing 707 ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 1955 ก่อนเข้าประจำการในปี 1956 มีการผลิตขึ้นทั้งหมด 803 ลำ
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีการปรับปรุงในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด Boeing KC-135 ใช้เครื่องยนต์เจ็ตแบบเทอร์โบแฟน (Turbofan engine) รุ่น CFM International F108-CF-100 จำนวน 4 ตัว ทำความเร็วสูงสุด 933 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บินได้ไกลสุด 17,727 กิโลเมตร
Boeing KC-135 ใช้ลูกเรือ 3 คน ประกอบด้วยนักบิน ผู้ช่วยนักบิน และเจ้าหน้าที่เติมเชื้อเพลิง (Boom Operator) ซึ่งมีภารกิจหลักคือการบรรทุกเชื้อเพลิง มีถังเชื้อเพลิงขนาด 200,000 แกลลอน หรือประมาณ 90,700 กิโลกรัม และยังรองรับภารกิจติดตั้งที่นั่งเพิ่มเพื่อรองรับผู้โดยสารสูงสุด 80 ที่นั่ง หรือสัมภาระอื่น ๆ สูงสุด 38,000 กิโลกรัม
ในปัจจุบัน มีประเทศที่นำ Boeing KC-135 เข้าประจำการทั้งหมด 4 ประเทศ ได้แก่ ชิลี ฝรั่งเศส ตุรกี และสหรัฐอเมริกา แต่ในสหรัฐฯ ยังมีบริษัททหารรับจ้างที่ชื่อว่า เมเทรีย (Metrea) ได้นำ Boeing KC-135 เข้าประจำการเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทอีก 15 ลำ โดยมาจากกองทัพอากาศฝรั่งเศส 11 ลำ และกองทัพอากาศสิงคโปร์ (ปัจจุบันเลิกใช้รุ่นนี้แล้ว) อีก 4 ลำ
เครื่องบินเติมเชื้อเพลิง Boeing KC-46A
Boeing KC-46A ได้รับการพัฒนาเพื่อมาทดแทน KC-135 โดยมีพื้นฐานมาจากเครื่องบินพาณิชย์ Boeing 767 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2013 และใช้งานจนถึงปัจจุบัน มีผู้ใช้งานใน 3 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และอิสราเอล สร้างขึ้นมาทั้งหมดรวม 98 ลำ
Boeing KC-46A ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบแฟนรุ่น Pratt & Whitney PW4062 รวม 2 ตัว ทำความเร็วสูงสุด 914 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะการบินสูงสุด 11,830 กิโลเมตร พร้อมถังเชื้อเพลิงความจุสูงสุด 207,670 แกลลอน หรือประมาณ 94,200 กิโลกรัม
จุดเด่นสำคัญของ Boeing KC-46A คือภายในเครื่องบิน แม้ว่าจะใช้ลูกเรือพื้นฐาน 3 นาย เหมือนกับ KC-135 แต่ยังมีที่นั่งถาวรสำหรับลูกเรืออีก 15 นาย สำหรับการทำภารกิจเป็นเครื่องบินอพยพ หรือเป็นโรงพยาบาลเคลื่อนที่ทางอากาศได้
พื้นที่ส่วนที่เหลือของเครื่องบิน Boeing KC-46A สามารถติดตั้งที่นั่งได้เพิ่มสูงสุด 54 ที่นั่ง หรือดัดแปลงเป็นโรงพยาบาลเคลื่อนที่ทางอากาศขนาด 24 เตียง และยังรองรับผู้ป่วยนอกอีก 34 คน ตลอดจนสามารถใช้เพื่อการขนส่งสัมภาระน้ำหนักรวมไม่เกิน 29,500 กิโลกรัม
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของเครื่องบินเติมเชื้อเพลิง Boeing KC-135 และ KC-46A นั้นเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรับมือปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านของสหรัฐอเมริกา ซึ่งยังรวมไปถึงการเดินทางของเรือบรรทุกเครื่องบิน (Aircraft Carrier) ชั้น USS Nimitz ไปยังตะวันออกกลาง ซึ่งคาดว่าอาจเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่ สำนักข่าว รอยเตอร์ส (Reuters) รายงาน และ TNN Tech ก็ได้นำเสนอแล้วเช่นกัน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
