สหราชอาณาจักรตั้งเป้าหั่นการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 78% ภายในปี 2035
ข่าววันนี้ ถือเป็นเป้าด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ท้าทาย และนับเป็นครั้งแรกที่ “งบประมาณคาร์บอน” ของสหราชอาณาจักรจะครอบคลุมถึงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการบินนานาชาติและการขนส่งทางเรือด้วย
แผนนี้จะทำให้สหราชอาณาจักรมีพัฒนาการเกินกว่า 3 ใน 4 บนเส้นทางไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050
สหราชอาณาจักรตั้งเป้าไว้อย่างไร
รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศว่าจะเพิ่มเป้าหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ท้าทายที่สุดในโลกให้เป็นกฎหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 78% ภายในปี 2035 เมื่อเทียบกับปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยในปี 1990
แผนนี้จะทำให้สหราชอาณาจักรเป็นผู้นำด้านสภาพภูมิอากาศก่อนถึงการประชุมระดับโลกด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ COP26 ในปลายปีนี้ซึ่งมีความตกลงปารีสเป็น “ฟันเฟืองเดินหน้า” กำหนดให้แต่ละประเทศเพิ่มการดำเนินการทางสภาพภูมิอากาศตามเป้าที่เรียกว่า NDCs (Nationally Determined Contributions) ซึ่งต้องนำเสนอต่อเวทีโลกทุก 5 ปี
จุดยืน UK ในฐานะเจ้าภาพ COP26 ปีนี้
สหราชอาณาจักรในฐานะประธานการประชุม COP26 เชิญชวนให้ประเทศและบริษัทจากทุกมุมโลกร่วมกันบรรลุแผนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ทั่วโลกภายในครึ่งแรกของศตวรรษที่ 21 เพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส
สหราชอาณาจักรได้ออกข้อกำหนดที่เรียกว่า “งบประมาณคาร์บอน” ซึ่งจำกัดปริมาณคาร์บอนที่ประเทศจะปล่อยได้ในระยะเวลา 5 ปี
สำหรับงบประมาณคาร์บอนฉบับที่ 6 (Sixth Carbon Budget) นี้ จำกัดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในช่วงเวลา 5 ปี ตั้งแต่ 2033-2038 ซึ่งจะทำให้สหราชอาณาจักรเดินหน้าไปได้ถึงกว่า 3 ใน 4 บนเส้นทางสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050
แผนงบประมาณคาร์บอนจะเป็นเครื่องรับประกันว่าสหราชอาณาจักรยังคงอยู่ในลู่ทางที่ถูกต้องเพื่อยุติการมีส่วนก่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขณะเดียวกันเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายในความตกลงปารีสในการจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศา
คำประกาศบอริส จอห์นสัน
“เราต้องการยกระดับการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงตั้งเป้าหมายอันท้าท้ายที่สุดในโลกที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก”
“สหราชอาณาจักรจะเป็นแหล่งกำเนิดธุรกิจต้นแบบ เทคโนโลยีใหม่ ๆ และนวัตกรรมสีเขียว ในขณะที่เราเดินหน้าตามแผนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์โดยวางรากฐานให้กับการเติบโตทางเศรษฐกิจในอีกหลาย ๆ ทศวรรษในทิศทางที่จะสร้างงานได้หลายพันตำแหน่ง”
“เราต้องการให้ผู้นำโลกเดินตามหนทางเดียวกันนี้และตั้งเป้าที่ท้าทายพอ ๆ กับเราก่อนถึงการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศ COP26 อันสำคัญยิ่ง เพราะเราจะฟื้นฟูโลกได้มากขึ้นและปกป้องโลกได้ก็ด้วยความร่วมมือกันเท่านั้น”
COP26 หัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ
อล็อก ชาร์มา ว่าที่ประธานการประชุม COP26 กล่าวว่า “ก้าวที่ยิ่งใหญ่ของสหราชอาณาจักรนี้ถือเป็นมาตรฐานอันดียิ่งสำหรับการดำเนินการตามแนวทางความตกลงปารีส”
“ผมขอเรียกร้องให้ประเทศอื่น ๆ ดำเนินการเช่นกันก่อนถึงการประชุม COP26 ณ เมืองกลาสโกว์ในปลายปีนี้ เราต้องร่วมกันป้องกันไม่ให้อุณหภูมิโลกเพิ่มเกิน 1.5 องศาเซลเซียสและช่วงทศวรรษหน้าถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่สุดในการออกจากเส้นทางอันตรายที่เราเดินอยู่นี้”
“เราจะจัดการกับวิกฤตการด้านสภาพภูมิอากาศและปกป้องชีวิต ความเป็นอยู่และธรรมชาติให้กับคนรุ่นหลังได้ หากประเทศอื่น ๆ ทำตามตัวอย่างของเรา”
68% ในปี 2030 / 78% ในปี 2035
เดิมทีรัฐบาลสหราชอาณาจักรกำลังทำงานตามคำมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้อย่างน้อย 68% ภายในปี 2030 ตามที่ประกาศไว้ในแผนเป้าหมาย NDC ฉบับล่าสุด ซึ่งถือว่าเป็นเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สูงที่สุดในบรรดาประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในปัจจุบัน
แต่การประกาศล่าสุดเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมาจะยิ่งเพิ่มเป้าหมายขึ้นไปอีกเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 78% ภายในปี 2035
เป้าหมายใหม่นี้จะได้รับการบรรจุไว้ในกฎหมายภายในเดือนมิถุนายนปีนี้โดยการออกกฎหมายนี้เป็นตัวกำหนดความมุ่งมั่นของสหราชอาณาจักรตามที่ได้ประกาศไว้ต่อรัฐสภาไปเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา
เรียบเรียง : ทศพล ชัยสัมฤทธิ์ผล
ภาพ : Reuter