งูเข้าบ้าน!! งูตัวไหนมีพิษ หรือไม่มีพิษ สังเกตยังไง?
งู เป็นสัตว์ที่คนกลัวติดอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ อาจเป็นเพราะ รูปร่างหน้าตาที่เกือบทุกคนที่เห็นเป็นต้องถอยมาตั้งหลัก และที่สำคัญ ที่เป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้คนกลัวงู ก็คือ งูบางชนิดมีพิษนั่นเอง งูบางชนิดล่าเหยื่อโดยการพ่นพิษออกมาทางเขี้ยวของมัน พิษของงูบางชนิดนั้นเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ยังผลให้เรามักคิดว่ามันเป็น "สิ่งมีพิษ" (ถึงแม้ว่าในเชิงวิชาการแล้วจะเรียกพิษนี้ว่า venom ไม่ใช่ poison) เวลาที่เราเดินทางไกลหรือไปตั้งแคมป์ในป่านั้น หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีโอกาสเจอพวกมัน
ดังนั้นก่อนจะบุกตลุยสู่ธรรมชาติ จำเป็นที่คุณจะต้องรู้วิธีแยกแยะความแตกต่างระหว่างงูพิษกับงูที่ไม่มีพิษ วันนี้ trueID จะมานำเสนอว่า จะสังเกตุได้อย่างไรว่า งูตัวไหนมีพิษ และ ไม่มีพิษ จะจำแนกอย่างไรไปดูกัน
งูตัวไหนมีพิษ หรือไม่มีพิษ สังเกตเบื้องต้นดังนี้
1.ดูที่หัว งูพิษส่วนใหญ่จะมีหัวเป็นรูปสามเหลี่ยม แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด นี่เป็นกฎเบื้องต้นที่ดี แต่อย่าลืมว่ามันมีข้อยกเว้น
รูปภาพโดย ฟอร์ม PxHere
2.สังเกตสี งูพิษบางชนิดอย่างงูปะการังจะมีสีสดฉูดฉาด
รูปภาพโดย ฟอร์ม PxHere
3.หลายๆ คนพยายามจะตัดสินว่างูตัวนี้มีพิษหรือไม่โดยการจ้องตามัน ข้อมูลแบบนี้ไร้ประโยชน์ เพราะข้อมูลที่คุณจะได้จากการสังเกตตรงจุดนี้นั้นบอกคุณได้แค่เพียงเวลาไหนที่งูมันจะตื่นตัว งูชนิดที่เป็นสัตว์ออกหากินกลางคืน จึงมักจะมีรูม่านตาแนวขวาง ส่วนงูที่ออกหากินตอนกลางวันก็จะมีรูม่านตากลม งูพิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลกบางพันธุ์ก็มีรูม่านตากลม แต่งูพิษที่โด่งดังอย่างงูหางกระดิ่งก็จะมีรูม่านตาแนวขวาง
4.ดูที่ร่องระหว่างตากับจมูกของงู งูพิษปกติจะมีร่องจับความร้อนอยู่บริเวณนั้นเพื่อค้นหาเหยื่อที่มีเลือดอุ่น งูไร้พิษจะไม่มีร่องดังว่า
ภาพถ่ายโดย PIXNIO
5.ดูว่ามันมีเสียงสั่นหรือเปล่า งูที่มีเสียงสั่นตรงหางต้องเป็นงูหางกระดิ่งซึ่งเป็นงูพิษ งูหางกะดิ่งแคระฟลอริดานั้นจะมีกระดิ่งตรงหางเป็นท่อนเดียว จึงมักไม่ค่อยทำเสียงสั่นดังเตือนให้รู้ตัว
รูปภาพโดย ฟอร์ม PxHere
6.สังเกตเกล็ดใต้ท้องตรงปลายหาง งูพิษส่วนใหญ่จะมีเกล็ดบริเวณนั้นเพียงแถวเดียวในขณะที่งูไม่มีพิษจะมีสองแถว
7.ตรวจดูใต้หางถ้าสามารถทำได้ ด้านใต้หาง (หลังรูทวาร) ของงูพิษนั้นจะดูเหมือนส่วนท้องที่เหลือทั้งหมด ถ้างูมีลายสลับ (อย่างเป็นรูปข้าวหลามตัดหรือรูปทรงเพชร) มันก็ไม่มีพิษ อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตรวจสอบ เว้นแต่งูนั้นตายแล้ว
8.ดูงูน้ำว่าย มีแต่งูน้ำที่มีพิษจึงจะว่ายน้ำโดยมองเห็นทั้งลำตัวในน้ำ
9.ตรวจดูรอยกัดในกรณีที่ถูกงูกัด หากมีรอยทิ่มใกล้กันสองรูบ่งชี้ได้ว่างูนั้นมีเขี้ยวและมีพิษ ในทางตรงข้าม รอยกัดแบบเละแสดงว่างูไม่มีเขี้ยว ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของงูไม่มีพิษ แต่มีข้อยกเว้นตรงรอยกัดของงูปะการัง แต่นี่ก็ยังถือเป็นกฎสำคัญข้อแรกได้อยู่
- งูพิษ มีเขี้ยว 1 คู่ อยู่ตรงขากรรไกรบน เขี้ยวมีลักษณะเป็นรูกลวงคล้ายเข็มฉีดยา มีท่อติดต่อกับต่อมน้ำพิษ เมื่องูพิษกัดคนหรือสัตว์ ต่อมน้ำพิษจะปล่อยพิษไหลมาตามท่อ และออกทางปลายเขี้ยว คนที่ถูกงูพิษกัดจะพบรอยเขี้ยวเป็นจุด 2 จุด ตรงบริเวณที่ถูกกัด
- งูไม่มีพิษ จะไม่มีเขี้ยว มีแต่ฟัน เมื่อกัดคน จะเป็นแต่รอยถลอกหรือรอยถากเท่านั้น จะไม่พบรอยเขี้ยวงูไม่มีพิษ เช่น งูก้นขบ งูแสงอาทิตย์ งูปี่แก้ว งูเขียวปากจิ้งจก งูลายสาบ งูลายสอ งูงอด งูเหลือม และงูหลาม (2 ชนิดหลังตัวใหญ่ สามารถรัดลำตัว ทำให้ตายได้)(โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าถูกงูที่มีพิษต่อเลือดกัด) หรืออาจตัดถูกเส้นเอ็นหรือเส้นประสาท รวมทั้งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
รู้จักข้อยกเว้น
ข้อยกเว้นจากกฎต่างๆ ทางด้านบนดังนี้:
- งูปะการังนั้นมีพิษแต่มีหัวทรงกลมในขณะที่งูไม่มีพิษบางชนิดอาจแผ่หัวออกจนดูคล้ายสามเหลี่ยมเวลาที่มันถูกคุกคาม
- งูที่มีสีสันฉูดฉาดบางชนิด อย่างงู scarlet snakes, scarlet kingsnake, และ red milk snake ล้วนแต่ไม่มีพิษ
- งู black mamba, งูปะการัง, งูจงอาง, และงู inland taipan นั้นมีพิษแต่มีรูม่านตากลม รูปทรงของรูม่านตาไม่ได้มีส่วนบ่งชี้ว่างูนั้นมีพิษหรือไม่เลย แต่มันจะบอกได้ว่างูนั้นตื่นอยู่หรือเปล่า!
เคล็ดลับ
- อย่าฆ่างูที่ไม่ได้ทำร้ายคุณ เพราะงูนั้นกินหนูกับสัตว์รบกวนอื่นๆ พวกมันช่วยควบคุมจำนวนประชากรของสัตว์เหล่านั้นที่อาจเป็นพาหะนำโรคสู่คน
- หากคุณวางแผนจะจับงู วิธีที่ปลอดภัยคือการวางกับดักงู
- ค้นหาในอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับงูพิษทุกชนิดที่อาศัยในย่านที่คุณอยู่เพื่อจะได้มองออกว่ามันมีหน้าตาอย่างไร จะช่วยคุณแยกแยะได้เวลาที่ได้เห็น
- เวลาไม่แน่ใจว่างูตัวนั้นมีพิษหรือไม่ สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามันมีพิษแล้วเลี่ยงเสีย!
- อย่าย่ำไปบนพุ่มหญ้าถ้าคุณไม่แน่ใจว่ามีงูซ่อนอยู่ที่นั่นหรือไม่
- ถ้าต้องอยู่ใกล้กับงูเห่าชนิดพ่นพิษได้ ให้แน่ใจว่าได้ซักผ้าทุกชิ้น เลนส์กล้องถ่ายรูป หรืออื่นๆ หลังจากเลิกอยู่ใกล้มัน และให้สวมแว่นกันแดดด้วย
- หากคุณถูกงูไม่มีพิษกัด ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่เป็นอะไรแบบ 100% เพราะงูไม่มีพิษเป็นพาหะนำโรคและแผลถูกกัดอาจอักเสบติดเชื้อได้
- หากคุณถูกงูพิษกัด ให้แน่ใจว่าได้จดจำลักษณะของมันได้ถูกต้อง! วิธีที่ดีที่สุดคือถ่ายรูปมันจากระยะปลอดภัยด้วยกล้องในโทรศัพท์มือถือ การสามารถระบุชนิดของงูได้ถูกต้องจะช่วยชีวิตคุณได้เวลาที่แพทย์ต้องเลือกเซรุ่มแก้พิษงู
คำเตือน
- แผลรอยกัดจากงูไม่มีพิษก็อาจอักเสบขึ้นได้ ให้ไปหาแพทย์เสมอและระบุชนิดของงูที่กัดอย่างถูกต้องด้วย
- หากคุณไม่ไปพบแพทย์ในทันทีหลังถูกงูพิษกัด มันอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
- อย่าพยายามคิดจับงูใดๆ ถ้ามั่นใจว่างูตัวนั้นไร้พิษและยืนกรานจะจับให้ได้ ให้ทำด้วยท่าทางไม่ไปคุกคามมัน ไม้เกี่ยวงูเป็นอุปกรณ์ที่ดีเวลาต้องใช้เพื่อความปลอดภัย
- อย่าคิดจับงูที่ส่งเสียงฟ่อ สั่นหางกระดิ่ง แผ่แม่เบี้ย หรือพ่นพิษ เพราะนั่นคือคำเตือนของพวกมันว่าอย่าเข้าไปยุ่งไม่งั้นโดนกัดแน่
งูเข้าบ้านโทรแจ้งใคร?
โทรแจ้งหน่วยกู้ภัย เมื่อคุณพบเห็นงูเลื้อยอยู่ในบ้าน ให้จับตามองงูไว้ แล้วโทรแจ้ง 199 เพื่อให้หน่วยกู้ภัยเค้าเข้ามาจับงู ซึ่งเค้ามีอุปกรณ์และความชำนาญในการจับงูและสัตว์ไม่พึงประสงค์ ที่เข้ามาในบ้านของเรา
อย่างไรก็ดี ควรหมั่นดูแลรักษาความสะอาดไม่ให้บ้านรก เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์จำพวกหนู ซึ่งเป็นอาหารของงูหลายๆชนิด หากโชคร้ายเป็นงูมีพิษที่เข้ามาในบ้านของเราแล้วฉกกัดเราขึ้นมาก็ต้องเสียเงินไปหาหมอ หากเรามีประกันอุบัติเหตุเอาไว้ก็จะช่วยได้ในเรื่องค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยต่างๆ ดังนั้นหมั่นรักษาความสะอาดอย่าให้บ้านรกและป้องกันด้วยวิธีการต่างๆ ข้างต้น รวมทั้งทำประกันอุบัติเหตุเอาไว้เพื่อความอุ่นใจ เราก็คลายกังวลเรื่องงูเข้าบ้านได้ไม่มากก็น้อย
ข้อมูล : My Snakey , wikihow , wikipedia