ปิดเกม! คว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ3
มติรัฐสภาโหวตคว่ำแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ตามคาด สว.250 คนโหวตหนุนแค่ 2 คน แต่คะแนนเสียงไม่มากกว่ากึ่งหนึ่ง จึงถูกตีตกไป
การอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา256 และเพิ่มหมวด 15/1 เป็นการพิจารณาเพื่อลงมติวาระ 3 ปรากฎว่า
เห็นชอบ 208 เสียง (ส.ส. 206 คน และ ส.ว. 2 คน)
ไม่เห็นชอบ 4 เสียง (ส.ว.)
งดออกเสียง 94 เสียง (ส.ส. 10 คน และ ส.ว. 84 คน)
ไม่ประสงค์ลงคะแนน 136 เสียง (ส.ส. 9 คน และ ส.ว. 127 คน)
ดังนั้นที่ประชุมร่วมรัฐสภาเห็นชอบไม่มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งสองสภาหรือ 369 เสียง จึงมีมติไม่เห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพิ่มมาตรา 15/1 ออกใช้เป็นรัฐธรรมนูญ จากนั้นจึงสั่งปิดการประชุม
ด้านส.ว. 250 คน ส่วนใหญ่ออกเสียงไม่ประสงค์ลงคะแนนและงดออกเสียง ทั้งนี้มี 2 ส.ว. คือ นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และ นายพิศาล มาณวพัฒน์ เป็นส.ว.ที่ลงมติเห็นชอบ
ย้อนเหตุการณ์ลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3
ยาวนานเกือบ 15 ชั่วโมง สำหรับประชุมรัฐสภามติไม่เห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ท่ามกลางสถานการณ์สัญญาณเตือนไฟไหม้และการวอล์กเอ้าต์ของ ส.ส.ภูมิใจไทย
เวลา 09.30 น.
นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาแบ่งญัตติที่เสนอในวาระแจ้งเพื่อทราบออกเป็น 3 ญัตติ 1.ไม่ให้มีการพิจารณาลงมติร่างรัฐธรรมนูญวาระที่ 3 เพราะขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ 4/2564 เป็นญัตติที่เสนอโดยนายสมชาย แสวงการ ส.ว. และ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.
2.ชะลอการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ก่อน โดยส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความอีกรอบเป็นญัตติที่เสนอโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี
3.เดินหน้าโหวตวาระ 3 โดยนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล สอดคล้องกับญัตติที่เสนอโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย
เวลา 10.30 น.
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. พปชร. และนายสมชาย แสวงการ ส.ว. อภิปรายว่าศาลวินิจฉัยไม่สามารถลงมติในวาระที่ 3 ได้ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องทำประชามติก่อน
ทำให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เสนอรัฐสภามีมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีกครั้ง และไม่ได้ประสงค์เตะถ่วงหรือประวิงเวลาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องขอความเห็นชอบเพื่อให้กระบวนการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยความรอบคอบ ปราศจากข้อสงสัย และไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง
ด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายต่อว่า เสนอญัตติให้รัฐสภาทำหน้าที่ลงมติวาระ 3 ต่อไป อย่าปิดกั้นอำนาจประชาชน ถ้าไปปิดกั้นอาจเกิดวิกฤตนองเลือด เหมือนปี พ.ศ.2535 ทางออกดีที่สุดแนวทางเดียวคือ โหวตวาระ 3ต่อไปและต้องลงมติให้ผ่าน อย่าให้รัฐธรรมนูญแท้งก่อนคลอด
เวลา 19.28 น.
ขณะที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กำลังประท้วงในที่ประชุม ได้เกิดเสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้ดังขึ้นทั่วอาคารรัฐสภา
เวลา 19.35 น.
นายชวนจึงได้สั่งพักการประชุมเป็นเวลา 20 นาที
เวลา 20.47 น.
หลังจากพักการประชุม นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. พปชร. เสนอให้พิจารณาระเบียบวาระเรื่องด่วนขึ้นมาพิจารณาแทนก่อน
เวลา 21.00 น.
ประธานรัฐสภาประกาศมติที่ประชุม โดยมีผู้ลงมติ 644 เห็นด้วยกับการพิจารณาระเบียบวาระเรื่องด่วนก่อน 473 คน ไม่เห็นด้วย 127 คน งดออกเสียง 39 คน ไม่ลงคะแนนเสียง 5 คน ดังนั้น ญัตติที่เสนอมา 3 เรื่องจึงตกไป
ทำให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี จากพรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นกล่าวว่า ไม่ขอร่วมสังฆกรรมกับพวกฉ้อฉล ศรีธนญชัย โกหกปลิ้นปล้อน ไร้สาระสิ้นดี จากนั้น ส.ส.พรรคภูิใจไทยจึงพากันลุกออกจากห้องประชุมทันที ขณะที่ยังมีการลงมติต่อไป
เวลา 23.20 น.
สิ้นสุดการลงมติไม่เห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพิ่มมาตรา 15/1 ในวันที่ 17มี.ค. 64จากนั้นประธานสภาประกาศปิดประชุมและเลื่อนวาระการประชุมต่อในวันที่ 18 มี.ค. 64