รีเซต

โควิด-19: ล็อกดาวน์อังกฤษ 5 พ.ย.-2 ธ.ค. รัฐบาลหวังสถานการณ์จะดีขึ้นก่อนคริสต์มาส

โควิด-19: ล็อกดาวน์อังกฤษ 5 พ.ย.-2 ธ.ค. รัฐบาลหวังสถานการณ์จะดีขึ้นก่อนคริสต์มาส
ข่าวสด
1 พฤศจิกายน 2563 ( 03:47 )
62
โควิด-19: ล็อกดาวน์อังกฤษ 5 พ.ย.-2 ธ.ค. รัฐบาลหวังสถานการณ์จะดีขึ้นก่อนคริสต์มาส

นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศอังกฤษเป็นครั้งที่ 2 ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อทั่วสหราชอาณาจักรเกิน 1 ล้านคนแล้ว

ร้านค้าสำหรับสินค้าที่ไม่มีความจำเป็น ร้านอาหาร ผับ และธุรกิจบริการต่าง ๆ จะต้องปิดนาน 1 เดือน ยกเว้นร้านอาหารแบบไม่ได้รับประทานที่ร้านยังให้บริการได้

แต่มาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้ต่างจากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะสถานศึกษาจะได้รับอนุญาตให้เปิดต่อไป

 

Reuters

สหราชอาณาจักร ประกอบด้วย 4 ชาติ คือ อังกฤษ (England) สกอตแลนด์ ไอร์แลนด์เหนือ และเวลส์ โดยคำสั่งปิดประเทศอังกฤษมาจากรัฐบาลกลางของสหราชอาณาจักร

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลของเวลส์ ได้ประกาศล็อกดาวน์เป็นเวลา 17 วัน สั่งให้ประชาชนอยู่บ้าน ระหว่าง 23 ต.ค. ถึง 9 พ.ย.

"คริสต์มาสปีนี้จะไม่เหมือนเดิม แต่รัฐบาลจะทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวได้พบหน้ากันในช่วงคริสต์มาส" นายจอห์นสัน กล่าวระหว่างการแถลงข่าว

PA Media

นิก เอิร์ดลีย์ ผู้สื่อข่าวการเมืองของบีบีซี ระบุว่า การล็อกดาวน์นี้ เกิดขึ้นหลังจากมีเอกสารระบุว่า สหราชอาณาจักรกำลังจะมียอดผู้เสียชีวิตรวมสูงกว่าในการระบาดระลอกแรกอย่างมาก นอกจากนี้คาดว่า การล็อกดาวน์จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางและมีกำหนดที่จะบังคับใช้ในวันพฤหัสบดีนี้ ไปจนถึงวันที่ 2 ธันวาคม

นายกฯ สหราชอาณาจักรได้แถลงข่าวนี้หลังจากหารือกับคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการรับมือการระบาดของโควิด-19 โดยนายคริส วิตที หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของอังกฤษ และเซอร์แพทริก วัลแลนซ์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาล ได้ร่วมแถลงข่าวด้วย

สหราชอาณาจักรมีผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เมื่อวันเสาร์อีก 21,915 คน ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อนับตั้งแต่มีการระบาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,011,660 คน

นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตภายใน 28 วันนับจากวันที่ตรวจพบเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 326 คน

Getty Images

สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่ 9 ที่มีผู้ติดเชื้อถึง 1 ล้านคน ตามหลัง สหรัฐฯ, อินเดีย, บราซิล, รัสเซีย, ฝรั่งเศส, สเปน, อาร์เจนตินา และโคลอมเบีย

แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงคาดว่าจะสูงกว่านี้ เพราะในช่วงเริ่มต้นของการระบาดไม่มีการตรวจหาเชื้ออย่างกว้างขวาง

บีบีซีเข้าใจว่าเอกสารนี้เป็นส่วนหนึ่งของการนำเสนอรายงานต่อนายบอริส จอห์นสัน ของกลุ่ม SPI-M ซึ่งเป็นกลุ่มที่สร้างแบบจำลองการระบาดขนาดใหญ่ของรัฐบาล

แบบจำลองทุกแบบในเอกสารนี้ คาดการณ์ว่า การเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลน่าจะสูงสุดในช่วงกลางเดือน ธ.ค. โดยยอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงอย่างน้อยช่วงปลายเดือน ธ.ค. ก่อนที่จะลดต่ำลงในช่วงต้นเดือน ม.ค.

รับมือไม่ไหวช่วงคริสต์มาส ?

เอกสารอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งมาจากการจำลองสถานการณ์ของหน่วยบริการสุขภาพแห่งชาติ (National Health Service—NHS) ของอังกฤษ จากข้อมูลวันที่ 28 ต.ค. ได้เตือนว่า NHS จะไม่สามารถรองรับผู้ป่วยเพิ่มเติมได้อีกในช่วงคริสต์มาส แม้ว่าจะมีการใช้โรงพยาบาลสนามและยกเลิกการรับผู้ป่วยที่ไม่ใช่กรณีเร่งด่วนแล้วก็ตาม

เอกสารนี้เตือนว่า พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ และแถบตอนกลางของประเทศ จะเป็นพื้นที่แรกที่เผชิญกับปัญหาดังกล่าว โดยความสามารถในการรองรับผู้ป่วยอาจจะถึงระดับสูงสุดภายในเวลาครึ่งเดือน

เอกสารเหล่านี้ปรากฏขึ้นหลังจากเอกสารทางการจากกลุ่มที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์สำหรับเหตุฉุกเฉิน (Scientific Advisory Group for Emergencies--SAGE) ที่ให้คำปรึกษารัฐบาล ระบุว่า โควิด-19 กำลังแพร่กระจายในอังกฤษเร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ในกรณีที่ "เลวร้ายที่สุด" อย่างมาก

Getty Images

ศาสตราจารย์เจเรมี ฟาร์ ซึ่งเป็นสมาชิก SAGE ทวีตข้อความเมื่อวันเสาร์ว่า "การจะควบคุมโควิด-19 ได้ เราต้องลงมือทำตอนนี้"

เขาระบุเพิ่มเติมว่า "เราได้มาถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และการระบาดใหญ่ยังคงเดินหน้าไปในทิศทางที่เกินกว่าที่คนจำนวนมากคาดการณ์ไว้"

จากประมาณการตัวเลขอาร์(ตัวเลขที่หมายถึง ผู้ติดเชื้อ 1 คน สามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสเฉลี่ยให้กับคนอีกกี่คน) ปัจจุบันในสหราชอาณาจักร อยู่ที่ 1.1-1.3 ซึ่งบ่งชี้ว่า ผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

กลยุทธ์ปัจจุบันของรัฐบาลมุ่งเน้นไปที่การใช้มาตรการควบคุมระดับท้องถิ่นเพื่อควบคุมไวรัส โดยมีการแบ่งพื้นที่ในอังกฤษเป็น 3 ระดับ คือ กลุ่มเฝ้าระวังไวรัสโคโรนาระดับกลาง, สูง และสูงมาก ส่วนในสกอตแลนด์แบ่งเป็น 5 ระดับ

PA Media

"สายเกินไป"

ลูซี โพเวลล์ รัฐมนตรีเงาด้านธุรกิจของพรรคเลเบอร์ ฝ่ายค้าน กล่าวกับรายการบีบีซีเบรกฟาสต์ (BBC Breakfast) ว่า มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ "สายเกินไป" แล้ว เธอระบุว่า การใช้มาตรการเซอร์กิต-เบรกเกอร์ ในช่วงที่มีการปิดเรียนกลางภาคการศึกษาน่าจะได้ผลมากกว่า

นางโพเวลล์ ระบุว่า ทางพรรคได้เรียกร้องให้มีการใช้เซอร์กิต-เบรกเกอร์ "2-3 สัปดาห์แล้ว"

เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า "การลังเลใจของรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้เราพลาดช่วงวันหยุดกลางภาคไปแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่น่าจะทำให้เกิดผลดีที่สุด"

"เราคงจะช่วยเศรษฐกิจได้มากกว่านี้ และลดผลกระทบ [ของล็อกดาวน์] ได้ด้วยการใช้เซอร์กิต-เบรกเกอร์ เร็วกว่านี้และระยะสั้นกว่านี้ ในช่วงที่ตรงกับหยุดเรียนกลางภาค"

ด้าน เคต นิโคลล์ส ซีอีโอของกลุ่มอุตสาหกรรมบริการในสหราชอาณาจักร UK Hospitality ระบุว่า การล็อกดาวน์ทั่วประเทศ จะ "ทำลาย" อุตสาหกรรมนี้ "อย่างแน่นอน"

เธอกล่าวกับรายการบีบีซีเบรกฟาสต์ว่า "ถ้าเราต้องเผชิญกับการล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้ง ...เราจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถก้าวผ่านช่วงนี้ไปได้"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง