Ledger CTO เตือนหยุดทำธุรกรรมชั่วคราว หลังพบ Supply Chain Attack ครั้งใหญ่บน NPM

Ledger CTO เตือนหยุดทำธุรกรรมชั่วคราว หลังพบ Supply Chain Attack ครั้งใหญ่บน NPM
Charles Guillemet ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ Ledger ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์วอลเล็ตชื่อดัง ออกประกาศเตือนผู้ใช้คริปโตทั่วโลกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ให้ระมัดระวังและชะลอการทำธุรกรรม On-chain หลังพบการโจมตีแบบ Supply Chain Attack ขนาดใหญ่บนแพลตฟอร์ม NPM (Node Package Manager) ซึ่งเป็นระบบจัดการแพ็กเกจโค้ดยอดนิยมในวงการพัฒนา JavaScript
รายละเอียดการโจมตี
- บัญชีของนักพัฒนาที่มีชื่อเสียงบน NPM ถูกแฮ็ก และปล่อยแพ็กเกจที่ถูกฝังโค้ดอันตราย
- แพ็กเกจที่โดนเจาะมีการดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 1 พันล้านครั้ง เสี่ยงกระทบเว็บไซต์และแอปจำนวนมหาศาล รวมถึงโครงการคริปโต
- โค้ดอันตรายถูกออกแบบมาเพื่อ เปลี่ยนที่อยู่กระเป๋าคริปโต (crypto address swapping) แบบเงียบ ๆ ทำให้เหรียญถูกส่งไปยังกระเป๋าของแฮ็กเกอร์
ใครที่เสี่ยง – ใครที่ปลอดภัย
- ผู้ใช้ฮาร์ดแวร์วอลเล็ต (Hardware Wallet) เช่น Ledger ที่สามารถตรวจสอบธุรกรรมชัดเจนก่อนเซ็น ถือว่าปลอดภัย
- ผู้ใช้ซอฟต์แวร์วอลเล็ต และนักพัฒนาที่เพิ่งอัปเดตแพ็กเกจ NPM อาจอยู่ในความเสี่ยง
สถานการณ์ล่าสุด
- แพ็กเกจที่ถูกเจาะบางส่วนได้รับการแพตช์แล้ว แต่ยังมีความกังวลว่า เว็บไซต์และฟรอนต์เอนด์บางแห่งอาจยังไม่ปลอดภัย
- แฮ็กเกอร์ใช้วิธี ฟิชชิ่งอีเมล โดยปลอมโดเมนเป็น npmjs.com หลอกให้นักพัฒนาเข้าสู่ระบบ เพื่อขโมยข้อมูลบัญชี
สรุป
เหตุการณ์ครั้งนี้อาจถูกมองว่าเป็น หนึ่งในการโจมตี Supply Chain ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์คริปโต และสะท้อนถึงความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ขณะที่ Ledger ย้ำว่าผู้ใช้ควรตรวจสอบธุรกรรมทุกครั้ง และใช้ฮาร์ดแวร์วอลเล็ตเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
อ้างอิง : theblock.co
ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/ledger-cto-warns-npm-supply-chain-attack
HashKey เปิดตัวกองทุน DAT มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ ลงทุน Bitcoin และ Ethereum
HashKey Group บริษัทการเงินดิจิทัลจากฮ่องกง ประกาศเปิดตัวกองทุนมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลงทุนใน Digital Asset Treasury (DAT) โดยเน้นการถือครองและลงทุนเชื่อมโยงกับราคา Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH)
รายละเอียดกองทุน
- กองทุนนี้ถูกออกแบบให้เป็น กองทุนสถาบันแบบเปิด (institutional-only, open-ended) นักลงทุนสามารถสมัครเข้าลงทุนและไถ่ถอนเงินได้อย่างยืดหยุ่น
- แตกต่างจาก ETF แบบ Passive เพราะ HashKey DAT Fund เน้นลงทุนใน โครงการและบริษัทที่พัฒนาและใช้กลยุทธ์ DAT
- ปัจจุบัน HashKey มี สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) มากกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
ฮ่องกงกับบทบาทผู้นำสินทรัพย์ดิจิทัล
ฮ่องกงได้กลายเป็น ศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลในเอเชีย ด้วยการสนับสนุนด้านกฎหมายและนโยบาย:
- เมษายน 2024: อนุมัติ Spot Bitcoin และ Ether ETFs แห่งแรกในเอเชีย
- มิถุนายน 2025: ขยายกรอบกฎหมายให้อนุญาต อนุพันธ์คริปโตสำหรับนักลงทุนสถาบัน และปรับกฎภาษีเพื่อดึงดูดกองทุนคริปโตและ Family Office
- กรกฎาคม 2025: ออกพันธบัตรรัฐบาลสีเขียวแบบ Tokenized ครั้งที่สาม แสดงถึงความตั้งใจผลักดันการเงินดิจิทัลในภาครัฐ
นอกจากนี้ ฮ่องกงยังเปิดตัว LEAP Framework เพื่อรองรับการออก Stablecoin ที่ได้รับใบอนุญาต, Tokenized Bonds และการนำ Real-World Assets (RWA) เข้าสู่โลกดิจิทัล
ทำไม DAT จึงสำคัญ?
HashKey มองว่า DAT เป็นเครื่องมือใหม่ที่ตอบโจทย์ความผันผวน 24 ชั่วโมงของตลาดคริปโต แตกต่างจากกองทุน ETF ที่ถูกจำกัดกรอบเวลา โดยกองทุน DAT จะทำให้สถาบันสามารถลงทุนได้คล่องตัวขึ้น และเชื่อมโยงโลกการเงินดั้งเดิมกับสินทรัพย์ดิจิทัล
อ้างอิง : cointelegraph.com
ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/hashkey-500m-digital-asset-treasury-hongkong
OpenSea เปิดตัวกองทุนซื้อ NFT มูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ เริ่มด้วย CryptoPunk
OpenSea แพลตฟอร์มซื้อขาย NFT ชั้นนำของโลก ประกาศเปิดตัวกองทุนสำรองมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ เพื่อลงทุนใน NFT ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม โดยการซื้อครั้งแรกคือ CryptoPunk #5273 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคอลเลกชัน NFT แรก ๆ บน Ethereum และมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์วงการคริปโต
วัตถุประสงค์ของกองทุน
Adam Hollander ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ OpenSea กล่าวว่า เป้าหมายของกองทุนนี้คือการสะสม “NFT ที่มีผลกระทบต่อวัฒนธรรม” ไม่ว่าจะเป็นในเชิงศิลปะ สังคม หรือเทคโนโลยี ผลงานเหล่านี้อาจเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ NFT หรือนำเสนอสไตล์ใหม่ ๆ รวมถึงการให้พื้นที่กับศิลปินที่ยังไม่ได้รับการยอมรับ
กองทุนจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีทีมงานภายในและที่ปรึกษาภายนอกจากแวดวงศิลปะดิจิทัลมาช่วยตัดสินใจ
การซื้อครั้งแรก: CryptoPunk #5273
ข้อมูลออนเชนเผยว่า CryptoPunk #5273 ถูกซื้อเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ด้วยมูลค่า 65 ETH (ประมาณ 283,000 ดอลลาร์) ก่อนจะถูกโอนเข้าสู่กระเป๋าใหม่ในวันถัดมา
คอลเลกชัน CryptoPunks ที่สร้างขึ้นในปี 2017 โดย Larva Labs ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดกว่า 2.1 พันล้านดอลลาร์
ความท้าทายของกองทุน NFT
แม้การตั้งกองทุนสำรองจะเป็นเรื่องปกติในตลาดเหรียญคริปโต เช่น Bitcoin, Ethereum หรือ Solana แต่สำหรับ NFT นับเป็นเรื่องใหม่ และยังมีความเสี่ยงสูง เนื่องจาก NFT มีสภาพคล่องต่ำกว่า และอาจขายได้ยากในช่วงตลาดขาลง
ภาพรวมตลาด NFT
ข้อมูลจาก CryptoSlam ระบุว่า ยอดขาย NFT เดือนกรกฎาคม–สิงหาคม 2025 อยู่ระหว่าง 115.4 ล้านดอลลาร์ – 170.5 ล้านดอลลาร์ แต่เข้าสู่กันยายนกลับลดลงเหลือเพียง 92 ล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์
ปัจจุบันหลายบริษัท เช่น Bybit, Kraken และ GameStop ได้ปิดตลาด NFT ของตัวเอง หลังเผชิญปัญหาปริมาณการซื้อขายลดลง ขณะที่ OpenSea พยายามปรับตัวด้วยการเปิดบริการซื้อขายโทเคนเสริมในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
สรุป
กองทุน NFT ของ OpenSea ถือเป็นก้าวใหม่ของแพลตฟอร์มในการรักษาความสำคัญของ NFT ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม แม้ตลาดจะยังชะลอตัว แต่ก็เป็นการย้ำว่า NFT ไม่ใช่เพียงสินทรัพย์เพื่อเก็งกำไร แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ดิจิทัลที่กำลังถูกเก็บรักษา
อ้างอิง : cointelegraph.com
ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/opensea-nft-reserve-cryptopunk-first-buy
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
