GULF-มิตซูบิชิ พาวเวอร์ ปิดจ๊อบ พลังความร้อนร่วม5,300เมกในไทย
#GULF #ทันหุ้น –มิตซูบิชิ พาวเวอร์ แบรนด์โซลูชันด้านพลังงานของบริษัทมิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ จำกัด (MHI) ได้เสร็จสิ้นการก่อสร้าง M701JAC เครื่องที่ 8 ซึ่งเป็นเครื่องสุดท้ายของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติขนาด 5,300 เมกะวัตต์ในประเทศไทย โครงการนี้เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF หนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) รายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย กับบริษัท มิตซุย แอนด์ โค จำกัด (Mitsui & Co.) ซึ่งเป็นบริษัทการค้าของประเทศญี่ปุ่น
โดย M701JAC เครื่องที่ 8 นี้ เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบสำเร็จเมื่อวันที่ 1ตุลาคม 2567เหตุการณ์สำคัญนี้ถือเป็นการเสร็จสิ้นโครงการหลายระยะที่ได้รับการอนุมัติในปี 2561 ตามกำหนด โดยประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมกังหันก๊าซ (GTCC) 2 แห่งในจังหวัดชลบุรีและระยอง ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญด้านการผลิตและบริการเทคโนโลยี โดยมีกำลังผลิตรวม 5,300 เมกะวัตต์
โรงไฟฟ้าแต่ละแห่งประกอบด้วยกังหันก๊าซ M701JAC จำนวน 4 เครื่อง พร้อมกังหันไอน้ำและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไอน้ำแบบหมุนเวียนความร้อน เพื่อให้มั่นใจถึงการจ่ายพลังงานที่เชื่อถือได้และยั่งยืน ซึ่งมีความสำคัญต่อความมั่นคงด้านพลังงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจของ ประเทศไทย ณ ปัจจุบัน กังหันก๊าซ 7เครื่องแรกที่ติดตั้งในจังหวัดชลบุรีและระยองมีชั่วโมงการทำงานจริง (AOH) สะสมรวมกันแล้ว 100,000 ชั่วโมง ซึ่งยืนยันถึงความน่าเชื่อถือของระบบที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว
โครงการระยะแรกที่โรงไฟฟ้าในจังหวัดชลบุรี* ถือเป็นก้าวสำคัญ เนื่องจากเป็นสถานที่ติดตั้งกังหันก๊าซรุ่น J-Series Air-Cooled (JAC) เครื่องแรกของมิตซูบิชิ พาวเวอร์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2564โรงไฟฟ้าแห่งนี้สร้างแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2565และได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ "โรงไฟฟ้ายอดเยี่ยมแห่งปี" (Power Plant of the Year) ในงาน Power and Energy Awards ซึ่งมอบรางวัลในงานประชุมและนิทรรศการ Enlit Asia ประจำปี 2566 กังหันก๊าซเหล่านี้อยู่ภายใต้การดูแลของมิตซูบิชิ พาวเวอร์ พร้อมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าและพันธมิตรด้านการก่อสร้าง พร้อมทั้งนำการเรียนรู้และ การปรับปรุงจากกังหันเครื่องก่อนหน้ามาประยุกต์ใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพของโครงการ
นายบุญชัย ถิราติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF กล่าวว่า "ด้วยความร่วมมือกันอย่างเต็มที่ของทีมงาน ทำให้เราสามารถรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้น จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเริ่มเดินเครื่องกังหันทั้ง 8เครื่องได้ตามกำหนด ขอขอบคุณพันธมิตรทุกท่าน ที่ปฏิบัติงานอย่างยอดเยี่ยม และเราหวังว่าจะได้สานต่อความร่วมมือเพื่อส่งมอบไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพให้กับชุมชนทั่วประเทศไทยต่อไป
นายทาคาโอะ ซึกุอิ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท มิตซูบิชิ พาวเวอร์ จำกัด กล่าวว่า "หลังจากที่เราผ่านพ้น ความท้าทายที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปได้ เราได้ดำเนินการติดตั้งกังหันก๊าซที่เหลือทุก ๆ 6 เดือน ให้แล้วเสร็จ และวันนี้กังหันก๊าซทุกเครื่องได้เริ่มเดินเครื่องตามกำหนดการอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมืออย่างมุ่งมั่นของทุกฝ่าย และเป็นก้าวสำคัญที่เราภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมกังหันก๊าซ (GTCC) ในจังหวัดชลบุรีและระยองเป็นโครงการกังหันก๊าซ JAC แห่งแรก ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นโครงการแรกของเรา ถือเป็นการปูทางสำหรับการทำสัญญากับกังหันก๊าซ JAC อีกกว่า 90 เครื่องทั่วโลก เราขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งสำหรับความไว้วางใจ และเราจะมุ่งมั่นสานต่อความสำเร็จของโครงการนี้ผ่านการให้บริการสัญญาในระยะยาว
หลังจากเสร็จสิ้นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมกังหันก๊าซ GTCC ทั้งสองแห่งแล้ว มิตซูบิชิ พาวเวอร์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งภายใต้ข้อตกลงการให้บริการสัญญาในระยะยาว (LTSA) โดยนอกเหนือจากสัญญาด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ และการก่อสร้าง (EPC) แล้ว ยังมีการจัดทำสัญญาการซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นระยะเวลา 25 ปี และสัญญาการให้บริการระยะยาวกับมิตซูบิชิ พาวเวอร์ เป็นระยะเวลา 25 ปี เพื่อรับรองว่าโรงไฟฟ้าจะยังคงตอบสนองความต้องการด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นของประเทศไทยด้วยประสิทธิภาพสูงสุดตลอดอายุการใช้งาน
มิตซูบิชิ พาวเวอร์ ได้สร้างผลงานอันโดดเด่นในการติดตั้งกังหันก๊าซขนาดใหญ่ในประเทศไทย ในปี 2554 บริษัทได้รับคำสั่งซื้อแบบครบวงจร จากการที่ได้รับการสนับสนุนจาก กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้า พลังความร้อนร่วมกังหันก๊าซ (GTCC) ที่อำเภอหนองแสงและอำเภออุทัย ซึ่งเริ่มการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 2557 และ 2558 ตามลำดับ ในปี 2563 มิตซูบิชิ พาวเวอร์ ได้รับคำสั่งซื้อจากบริษัท หินกองเพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นกิจการ ร่วมทุนอีกแห่งหนึ่งของ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ สำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมกังหันก๊าซ (GTCC) ที่ใช้กังหันก๊าซ M701JAC จำนวน 2 เครื่อง
กังหันก๊าซ M701JAC มีประสิทธิภาพในการผลิตกระแสไฟฟ้ายอดเยี่ยมถึง 64% ซึ่งช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้อย่างมาก กังหันก๊าซที่ขั้นสูงเหล่านี้ช่วยสนับสนุนการเสริมสร้างเสถียรภาพด้านพลังงานในภูมิภาคขณะที่หลายประเทศกำลังมุ่งสู่การลดคาร์บอนในระบบพลังงานของตน ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค มิตซูบิชิ พาวเวอร์ ยังคงทุ่มเทในการพัฒนาเทคโนโลยีกังหันก๊าซและโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมกังหันก๊าซ (GTCC) โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานสู่พลังงานที่มีเสถียรภาพและเชื่อถือได้ผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการพลังงานในอนาคตของภูมิภาคนี้