รีเซต

WHART ดันมูลค่ากองทรัสต์ด้านโลจิสติกส์แตะ 5.5 หมื่นล้านบาท

WHART ดันมูลค่ากองทรัสต์ด้านโลจิสติกส์แตะ 5.5 หมื่นล้านบาท
ทันหุ้น
20 พฤศจิกายน 2566 ( 12:45 )
38
WHART ดันมูลค่ากองทรัสต์ด้านโลจิสติกส์แตะ 5.5 หมื่นล้านบาท

#WHA #ทันหุ้น – กองทรัสต์ WHART เล็งขยายขยายอาณาจักรกองทรัสต์ด้านโลจิสติกส์ สู่การเป็นกองทรัสต์ประเภทอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

 

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) “WHA Group” เปิดเผยในฐานะเจ้าของทรัพย์สิน (Sponsor) และผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) เป็นกองทรัสต์ที่เน้นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงาน โดยปัจจุบันทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHART เข้าลงทุนทั้งหมดจะมี WHA Group เป็นผู้พัฒนาและบริหาร ที่ผ่านมากองทรัสต์ WHART มีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง มีทรัพย์สินภายใต้บริหารจัดการกว่า 1.74 ล้านตารางเมตร สอดคล้องกับนโยบายของ WHA Group ที่ยังคงเป็นผู้สนับสนุนหลัก ในการนำทรัพย์สินคุณภาพระดับพรีเมี่ยมเข้ากองทรัสต์ WHART ทุกปีต่อเนื่อง

 

WHA Group ถือเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาคลังสินค้า และโรงงาน ประเภท Built-to -Suit ซึ่งเป็นอาคารที่มีการออกแบบและพัฒนาตามความต้องการของลูกค้า และ General Warehouse ที่มีมาตรฐานระดับพรีเมี่ยม รวมทั้งยังมีการให้บริการโซลูชั่นครบวงจร ทั้งระบบสาธารณูปโภค แพลตฟอร์มโครงสร้างด้านพลังงาน และระบบดิจิตอล โดยทุกโครงการของ WHA Group ล้วนตั้งอยู่ในพื้นที่โลจิสติกส์ที่มีศักยภาพ มีความต้องการเช่าสูง และเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์หลักของประเทศ ได้แก่ บริเวณถนนบางนา-ตราด บริเวณพื้นที่ที่สอดรับกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นทำเลที่สามารถเชื่อมต่อทั้งตัวเมืองกรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ ท่าเรือแหลมฉบัง และถนนสายหลัก ด้านการขนส่งและการกระจายสินค้ามีประสิทธิภาพ ทำเลกรุงเทพตอนเหนือ (วังน้อย-สระบุรี) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สำคัญในการกระจายสินค้าไปยังภาคเหนือและภาพตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงทำเลจังหวัดสมุทรสาครที่เป็นพื้นที่หลักสำหรับกระจายสินค้าในโซนกรุงเทพฝั่งตะวันตก

 

ด้านนายอนุวัฒน์ จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) เปิดเผยว่า ปัจจุบันกองทรัสต์ WHART เป็นกองทรัสต์ประเภทอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีมูลค่าทรัพย์สินกว่า 51,000 ล้านบาท และมีโครงการภายใต้กว่าบริหารจัดการ 39 โครงการ หรือพื้นที่ประมาณ 1.74 ล้านตารางเมตร ในปี 2566 นี้ กองทรัสต์ WHART ประกาศเดินหน้าตอกย้ำสู่การขยายอาณาจักรการเป็นผู้นำกองทรัสต์ประเภทอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายหลังจาการเพิ่มทุนในปี 2566 จำนวนไม่เกิน 195.90 ล้านหน่วย เพื่อลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในปี 2566 มูลค่าไม่เกิน 3,566.49 ล้านบาท ทั้งนี้ภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินครั้งนี้ จะส่งผลให้กองทรัสต์ WHART มีมูลค่าทรัพย์สินรวมแตะ 55,000 ล้านบาท ถือเป็นกองทรัสต์ประเภทอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมมากที่สุดในประเทศ โดยมีพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1.89 ล้านตารางเมตร พื้นที่เช่าหลังคา 487,243.29 ตารางเมตร โดยเป็นอาคารคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และอาคารโรงงาน ที่พัฒนาขึ้นตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit) และแบบสำเร็จรูป (General Warehouse)  สำหรับทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHART จะเข้าลงทุนในครั้งนี้ จำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย

 

1. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21 เป็นคลังสินค้า รูปแบบ Built-to-Suit และ General Warehouse พื้นที่เช่า 90,862 ตร.ม.

2. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ แหลมฉบัง โปรเจค 1 เป็นคลังสินค้า รูปแบบ General Warehouse พื้นที่เช่า 24,310 ตร.ม

3. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ บางนา-ตราด กม.23 โปรเจค 3 เป็นคลังสินค้า และโรงงานแบบ General Warehouse พื้นที่เช่า 27,724 ตร.ม.

สำหรับการเพิ่มทุนของกองทรัสต์ WHART ครั้งนี้ ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมมีสิทธิสามารถจองซื้อได้ในวันที่ 1 , 4 และระหว่างวันที่ 6 ถึง 8 ธ.ค. 2566 ที่ราคาสูงสุดที่ 9.60 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้หากราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาสูงสุดจะทำการคืนเงินส่วนต่างราคาให้กับผู้จองซื้อ โดยนักลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อได้ผ่านเว็บไซต์ K-My Invest (www.kasikornbank.com/kmyinvest) และสาขาของ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ส่วนประชาชนทั่วไปสามารถจองซื้อในวันที่ 13 ถึง 15 และวันที่ 18 ธ.ค. 2566 โดยจะทำการชำระเงินจองซื้อที่ราคาสุดท้าย โดยนักลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อได้ผ่าน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง