TASCOมีบ่อน้ำมันใหม่ ยางมะตอยQ4โตต่อ
ทันหุ้น –TASCO เผยพบน้ำมันดิบที่ใช้ทดแทนจากแหล่งเวเนซูเอลา แต่ราคาจะสูงประมาณ 20% คาดจะเริ่มติดต่อปลายปีนี้ หรือมกราคม 2564 ผู้บริหารประเมินไตรมาส 4/2563 โตต่อเนื่อง ดีมานด์ยางมะตอยในประเทศยังสูง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ และรับผลบวกจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ เร่งเจรจาขอเคลมประกันจากเหตุเพลิงไหม้เพิ่ม คาดสรุปได้ธันวาคมนี้
นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลต์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO เปิดเผยว่า จากการศึกษาในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีน้ำมันดิบ 4 ชนิดในทวีปเอเซีย, อเมริกาเหนือ, และอเมริกาใต้ ที่จะสามารถนำมาใช้ทดแทนน้ำมันดิบจากเวเนซูเอลาได้ โดยบริษัทสามารถถนำมาใช้ได้เลย หรือนำมาผสมกับน้ำมันดิบจากเวเนซูเอลาที่บริษัทยังมีอยู่ เบื้องต้นสามารถทำสัญญาซื้อได้ 2 ลักษณะ คือ 1.ทำสัญญาสปอตเป็นลำเรือ หรือ 2.ทำสัญญาจัดซื้อระยะยาว ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาคาดว่าจะดำเนินการติดต่อซื้อ-ขายภายในปี 2563 - ต้นมกราคม 2564
ปัจจุบัน TASCO มีน้ำมันที่ซื้อจากเวเนซูเอลาใช้ได้จนถึงไตรมาส 1/2564 ซึ่งบริษัทยกเลิกการซื้อน้ำมันจากเวเนซูเอลาในเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากที่สหรัฐขอความร่วมมือให้ยกเลิกการซื้อน้ำมันดังกล่าว
*ดีมานด์ยางมะตอยเข้าไฮซีซัน
ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทประกัน เพื่อจะขอเครมประกันในส่วนความเสียหายทางธุรกิจ ทั้งการชดเชยความเสียหายการทำกำไร ค่าใช้จ่ายที่ลงทุน จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเดือนธันวาคมนี้ และจะได้เงินประกันในไตรมาส 1/2564โดยช่วงที่ผ่านมาได้เงินประกันจากความเสียที่เกิดขึ้นในวงเงินคุ้มครอง 800 กว่าล้านบาท ขณะนี้ได้มาแล้ว 593 ล้านบาท และในเดือนตุลาคมนี้จะได้อีก 179 ล้านบาท ทำให้จะมียอดรวมที่ได้อยู่ที่ 772 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2563 บริษัทจะยังเติบโตต่อเนื่อง เพราะความต้องการใช้ยางมะตอยในประเทศยังสูง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ และรับผลบวกจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ จึงเชื่อว่าความสามารถในการทำกำไรยังดี เบื้องต้นคาดว่าปริมาณการขายทั้งปี 2563 จะอยู่ที่ 1.8 ล้านตัน กดดันจากยอดขายต่างประเทศที่ลดลงจากผลกระทบจากโควิด-19 แต่ในส่วนของในประเทศยังดี
ด้านราคายางมะตอยในไตรมาส 4/2563 จนถึงไตรมาส 1/2564คาดว่าจะชะลอตัวลง เนื่องจากความต้องการในจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ลดลง เพราะเป็นช่วงโลซีซั่น ขณะเดียวกันจะต้องติดตามผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด -19 ในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด
*ไตรมาส 4/63 ยังเติบโตสูง
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัดระบุถึง TASCO ว่า คาดกำไรปกติในไตรมาส 4/2563 ลดลงจากไตรมาสก่อน แต่เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากเป็นช่วง Low Season ของตลาดต่างประเทศ และยังคงได้รับผลกระทบจากโรคระบาด COVID-19, ทยอยเบิกจ่ายงบประมาณปี 2564 ในปลายเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป และราคาขายปรับตัวลงกดดัน GPM
บริษัทบันทึกกำไรพิเศษจากประกันในเหตุการณ์ไฟไหม้ราว 179 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2563 และอยู่ระหว่างการเจรจาเงินประกันก้อนสุดท้ายซึ่งคาดจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/2564
ทั้งนี้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2564 ขึ้น 66% เป็น 2,502 ล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทสามารถผลิตยางมะตอยจากแหล่งเดิมได้ถึงไตรมาส 2/2564 เป็นอย่างน้อย และมี Feedstock อีก 4แหล่งที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานไปได้อีกสักระยะ (ราคาสูงกว่าแหล่งเดิม 20% เป็นอย่างน้อยและให้ Yield ลงลงจาก 70% เป็น 50-60%) เบื้องต้น บริษัทตั้งเป้าปริมาณการผลิตปี 2564 อยู่ที่ 1.7 1.8 ล้านตัน ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2564 ขึ้นเป็น 21.0 บาท อิง PER 13.0 เท่า เหลือ Upside 13.5% จึงยังคงคำแนะนำ TRADING เชิงกลยุทธ์ แนะนำเข้าสะสมเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวที่ 17.50 บาทต่อหุ้นลงมา
รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)