รีเซต

‘เมย์แบงก์’ อัพเกรด TASCO หลังกำไรQ4/65 เด่นเกินคาด!

‘เมย์แบงก์’ อัพเกรด TASCO หลังกำไรQ4/65 เด่นเกินคาด!
ทันหุ้น
20 กุมภาพันธ์ 2566 ( 14:39 )
168

#ทันหุ้น - บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ประเมินหุ้นบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน)  หรือ TASCO โดยปรับประมาณการ และ เป้าหมายเพิ่ม เพิ่มเกรดเป็น ถือ

 

ฝ่ายวิจัยเพิ่มเกรดคำแนะนำเป็น ถือ จากเดิม ขาย เนื่องจาก กำไร Q4/65 สูงเด่น 1,054 ล้านบาท (+91%YoY) และมากกว่าคาด 110% ราคายางมะตอยปัจจุบันปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบ จะทำให้ความสามารถทำกำไรดีขึ้น ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการเพิ่มขึ้น แต่คาดกำไรปีนี้จะทรงตัวใกล้ปีก่อน และ บนฐานค่าเฉลี่ย 10 ปี Forward P/E เท่า 12 เท่า จะได้เป้าหมายใหม่เพิ่มเป็น 19.20 บาท จาก 15.7 บาท ราคาหุ้นมีอัพไซด์ไม่มาก 3.7%

 

โดยฝ่ายวิจัยกังวลปัจจัยเสี่ยงความต่อเนื่องของ Feedstock ที่จะเข้ามาป้อนโรงกลั่น และ ประเด็นเวเนซุเอลายังถูกแซงก์ชั่น ทั้งนี้ TASCO ได้ประกาศจ่ายปันผลอีก 1 บาท เมื่อรวมปันผล 1H65 เท่ากับ 0.25 บาท จะมีปันผลรวม 1.25 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 6.8%

 

กำไร Q4/65 สูงเด่นถึง 1,054 ล้านบาท มากกว่าคาด 110%

 

กำไร Q4/65 สูงเด่นถึง 1,054 ล้านบาท (+107%QoQ, +91%YoY) มากกว่า ฝ่ายวิจัยคาด 110% ถ้าหากหักรายการค่าใช้จ่ายพิเศษจะมีกำไรปกติที่ดีขึ้นอีกเป็น 1,325 ล้านบาท ผลประกอบการได้แรงหนุนจากยอดขายที่เติบโตสูง 10,171 ล้านบาท (+23%QoQ, +54%YoY)

 

เนื่องจาก ในเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2565 TASCO มี Feedstock (Residue) เข้ามากลั่นถึง 3 Cargo เทียบกับ 1H65 มีเข้ามากลั่นเพียง 1 Cargo ทำให้ Q4/65 มีปริมาณขายเพิ่มเป็น 339,000 ตัน (+21%QoQ, +17%YoY) และ ต้นทุน Feedstock ได้ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ในขณะที่ราคายางมะตอยยังอยู่ในระดับสูง บวกกับมีน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาที่ต้นทุนถูกอยู่ในสต็อก ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 20.1% จาก 12.8% ใน Q4/64

 

เพิ่มประมาณการ แต่กำไรปีนี้คาดจะทรงตัว

 

ราคายางมะตอย ม.ค.-ก.พ. ยังอยู่ในระดับสูง500เหรียญ/ตัน และ ลดลงจากจุดสูงสุดใน Q2/65 ไม่มาก 10%-15% เทียบกับราคาน้ำมันดิบ Brent ได้ปรับลดลงจากจุดสูงใน Q2/65 ถึง 30%-35% จะเอื้อประโยชน์ต่อความสามารถทำกำไร และ ในปีนี้ผู้บริหาร TASCO ตั้งเป้าหมายจะนำเข้า Feedstock เข้ามากลั่น 4 Cargo เท่ากับปี 2565

 

และ ตั้งเป้าปริมาณขาย 1.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 เล็กน้อยที่มีปริมาณขาย 1.18 ล้านตัน ปี 2566 ฝ่ายวิจัยปรับอัตรากำไรขั้นต้นขึ้น 12.4% จาก 9.4% และ ปรับเพิ่มกำไร 47% เป็น 2,526 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2565

 

ปัจจัยเสี่ยงเรื่องชัพพลายน้ำมันดิบยังเป็นประเด็นหลัก

 

ปัจจุบัน TASCO ยังมีน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาในสต็อก ซึ่งจะนำเข้า Feedstock เข้ามาผสมในอัตราส่วนประมาณ 70%:30% (Feedstock : Heavy crude oil) ซึ่งปีนี้ TASCO จะนำเข้า Feedstock เข้ามากลั่น 4 Cargo และ คาดหวังจะซื้อ Heavy crude oil ได้ ฝ่ายวิจัยยังกังวลประเด็นการจัดหาซื้อ Heavy crude oil เข้ามาในขณะที่เวเนซุเอลายังถูกแซงก์ชั่น

 

ฝ่ายวิจัย แนะ ถือ ให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 19.20 บาท **

 

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง