"เมย์แบงก์" มองหุ้น "สายการบิน" ฟื้นไม่ชัด คาดกำไร 2Q68 อ่อนแอ หลังนักท่องเที่ยวระยะใกล้หดตัว

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MST ระบุในบทวิเคราะห์ "หุ้นกลุ่มสายการบิน" ว่ายังคงมุมมอง “เท่าตลาด” สำหรับกลุ่มสายการบิน เนื่องจากยังไม่เห็นสัญญาณชัดเจนของการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารในประเทศไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 68 แม้ว่าทางสายการบินจะมีการขอเวลาการบิน (slot) เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

แต่ข้อมูลล่าสุดจาก ForwardKeys ชี้ว่าการจองตั๋วล่วงหน้าสำหรับเที่ยวบินระยะใกล้ หรือ short haul ยังคงอ่อนแอ ทั้งนี้ AAV ยังคงปรับลดจำนวนที่นั่งเส้นทางบินจีน และอาเซียนใน 3Q68 และเปลี่ยนมาเพิ่มจำนวนที่นั่งในเส้นทางภายในประเทศ ซึ่งน่าจะส่งผลให้ราคาตั๋วเครื่องบินลดลง ราคาหุ้น AOT ก็มีupside จำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย

ส่วน BA ยังคงเป็นหุ้นเด่นที่เลือก หรือ Top Pick เนื่องจากมีรายได้ที่มั่นคงจากเส้นทางสมุย ซึ่งได้รับผลกระทบน้อยกว่าจากการลดลงของนักท่องเที่ยวจีน และยังมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจอยู่ที่ 9%

ความเสี่ยงด้านลบของกลุ่มนี้คือการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนที่อาจช้ากว่าคาด และความไม่แน่นอนจากนโยบายขึ้นภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ กลุ่มสายการบินอาจน่าสนใจมากขึ้นนักลงทุนยังคงลังเลในการลงทุนในกลุ่มสายการบินเนื่องจากมองว่าเป็นกลุ่มที่มีความผันผวนสูงทั้งในด้านผลประกอบการ และราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นต้นทุนหลัก

รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรง การกลับมาซื้อขายของหุ้นการบินไทย หรือ THAI ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ หลังสิ้นสุดแผนฟื้นฟูกิจการ อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความมั่นคงที่เพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรม โดยในปัจจุบันกลุ่มสายการบินยังไม่เห็นผลกระทบจากสงครามภาษีอย่างมีนัยสำคัญ สังเกตได้จากราคาหุ้นสายการบินสหรัฐฯที่ยังคงแข็งแกร่งหลังการประกาศขึ้นภาษีของทรัมป์ในเดือนกรกฎาคม

ในขณะที่ ForwardKeys บริษัทข้อมูลการเดินทางทางอากาศระบุว่า การจองตั๋วล่วงหน้าสำหรับเที่ยวบินระยะใกล้เข้าสู่ประเทศไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 68 ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะจากตลาดเอเชียตะวันออกรวมถึงจีน ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่สายการบินจะยกเลิกช่วงเวลาการบิน (Slot) สำหรับเส้นทางในภูมิภาคเอเชีย

คาดว่า AAV, AOT และ BA จะมีกำไรลดลง YoY ใน2Q68 ตามจำนวนผู้โดยสารที่ลดลงซึ่งสอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยซึ่งอยู่ที่ 7.1 ล้านคนใน 2Q68 ลดลง 12% YoY และ 25%  QoQ แม้ AAV จะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลง แต่ก็ยังคงขาดทุนจากการดำเนินงาน เนื่องจากการใช้เครื่องบินในเส้นทางระหว่างประเทศระยะใกล้ยังต่ำ สำหรับ BA คาดว่ากำไรจะลดลง 40% YoY จากอัตราบรรทุกผู้โดยสารที่ต่ำในเส้นทาง CLMV ตรงข้ามกับจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางไปสมุยที่ยังคงเติบโต โดยคิดเป็น 70% ของรายได้