รีเซต

ส่องดัชนีหุ้นไทยปี 2569 พร้อมคัด ”หุ้นเด่น“ ควรมีติดพอร์ต

ส่องดัชนีหุ้นไทยปี 2569  พร้อมคัด ”หุ้นเด่น“ ควรมีติดพอร์ต
TNN ช่อง16
23 พฤศจิกายน 2568 ( 15:34 )

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์  ประเมินเป้าดัชนีในปี 2569 อยู่ในช่วง 1,350-1,400 จุด


มีโอกาสได้แรงหนุนจากกระมุส Election Rally ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2569 และมาตรการกระต้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะทยอยประกาศก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งอาจช่วยหนุนเซนดิเมนต์การลงทนในระยะสั้น แต่อย่างไรก็โดยตลาดอาจเผชิญแรงกดดันในไตรมาส 2/69-3/69 จากการเมืองในประเทศ ซึ่งจุดเข้า ลงทุนที่น่าสนใจอยู่ที่ 1,200 จุด


สำหรับปัจจัยทางการเมือง คาดว่าการเลือกตั้งเดือนมี ค. 2026 จะกระต้นให้ตลาดปรับตัวขึ้นก่อนเลือกตั้ง โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2-3% โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร พาณิชย์ และท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาลผสมซึ่งจะทำให้เกิดความไม่แน่นอนด้านนโยบาย และอาจกดดันตลาด


ดังนั้น มองการปรับขึ้นรอบนี้ว่าเป็นโลกาสเทรดระยะสั้น มากกว่าการเปลี่ยนโครงสร้างตลาดในระยะยาว หวังว่ามาตรการสนับสนุน เช่น นโยบายเศรษฐกิจใหม่ๆ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และมาตรการกระตุ้นระยะสั้น จะช่วยหนุนตลาดให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น


ทั้งนี้ คำแนะนำกาการลงทุน ให้โฟกัสไปที่บริษัทที่มึงบดุลแข็งแรง มี margin of safety สูง มองเห็นกำไรได้ขัดเจน และซื้อขายที่ มูลค่าสมเหตุสมผล ซึ่งจะช่วยป้องกันความผันผวนจากปัจจัยมนภาค หันเด่นสำหรับไตรมาส 1/68 ได้แก่ BDMS, CENTEL, DIF, PTT และ TRUE


บล.หยวนต้า ประเมินเป้าดัชนีในปี 2569 อยู่ที่ 1,400 จุด


โดยจุดเด่นของตลาดหุ้นไทย คือกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งมากของบริษัทจดทะเบียน โดย 9 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% YoY ทำให้สามารถรักษาระดับ Dividend Yield ที่ 4% ต่อปีได้ต่อเนื่อง 


แนะนำหุ้นที่คาดการณ์งบไตรมาส 4/68 จะออกมาดี คือ ADVANC, BAM, BEM, CENTEL, DOHOME, GULF, GLOBAL, MINT, SAWAD และ TRUE

บล.เมย์แบงก์ ประเมินเป้าดัชนีในปี 2569 อยู่ที่ 1,370 จุด


แม้กำไรไตรมาส 3/68 ดีกว่าตลาดคาด 6% แต่ในเชิงการกระจายตัวสะท้อนกำไรบริษัท ส่วนใหญ่เป็นไปตามคาด ประกอบกับเศรษฐกิจข้างหน้าที่เผชิญความท้าทาย จากความไม่แน่นอนภาษีสหรัฐ การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และปัญหาหนี้ครัวเรือน จึงเป็นเหตุให้ยังไม่เห็นสัญญาณการปรับเพิ่มประมารการกำไร แต่มองอีกด้านหนึ่งเชื่อว่า Downside การปรับลดประมาณการจำกัดเช่นกัน โดย Bloomberg Consensus ที่ปัจจุบันคาด EPS ปี 2568 อยู่ที่ 88.6 บาท 


ส่วนในปี 2569 อยู่ที่ 95.4 บาท เทียบกับคาดการณ์ของฝ่ายวิจัยเมย์แบงก์ คาดไว้ที่ 87 บาทต่อหุ้นในปีนี้ และในปีหน้าที่ 92 บาทต่อหุ้นในปีหน้า พร้อมคงเป้าหมายดัชนีสิ้นปี 2568 อยู่ที่ 1,290 จุด ส่วนในปี 2569 อยู่ที่ 1,370 จุด


ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำเลือก 10 หุ้นที่ทมีแนวโน้มกำไรหลักไตรมาส 4/68 เติบโตและดีต่อในปี 2569 โดยชอบหุ้น AMATA, AP, BCPG, COM7, CPN, MINT, MTC, TRUE, WHA และ WHAUP

บล.กรุงศรี ประเมินเป้าดัชนีในปี 2569 อยู่ที่ 1,370 จุด  


บนการคาดการณ์ GDP ไทยเติบโต 1.8% และอัตราดอกเบี้ยนโยบายสั้นปีที่ 1.06% โดยมีปัจจัยสำคัญที่น่าจับตา ได้แก่ การกลับมาของเงินทุนในประเทศ ที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิด เงินใหม่หรือการไหลกลับของเงินทุนระยะยาวในประเทศเข้ามาหนุนตลาด เเละการเลือกตั้งปีที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี ถือเป็นโอกาสในการเกิด การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ


แม้จะมีความผันผวนสูงทั่วโลก แต่ตลาดจะได้แรงหนุนสำคัญจากสภาพดล่องทางการเงินที่หยุดดึงตัวชั่วคราวและการฟื้นตัวของกำไร แนะจับตา 4 ธัมการองทุนหลัก ที่จะมีปัจจัยขับเคลื่อนชัดเจนในปี 2569 ได้แก่ กลุ่มธนาดาร, กลุ่มบริการ,กลุ่มโดรงสร้างพื้นฐาน/ เทคโนโลยี และกลุ่มพลิกฟื้นและเติบโตสูง


-กลุ่มธนาคาร KTB, KBANK

-กลุ่มบริการ CENTEL, AOT, BDMS และ CPALL

-กลุ่มโดรงสร้างพื้นฐาน/เทคโนโลยี  ADVANC, GULF, BGRIM และ AMATA

-กลุ่มพลิกฟื้นและเติบโตสูง PTTGC,INSET


นอกจากนี้ ความเสี่ยงด้านบวกที่อาจสนับสนุนดลาดเพิ่มเติมคือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนและการเริ่มต้นการลงทุนในศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในประเทศไทย"สภาพคล่องที่ผ่อนคลายเสมือนการเดิมน้ำมันให้กับตลาดหุ้น ซึ่งทำให้เครื่องยนต์พร้อมวิ่ง แต่ตลาดจะวิ่งไปได้ดีหรือไม่นั้น ต้องอาศัยธีมเด่นเป็นเส้นทางที่ชัดเจนให้นักลงทุนเลือกตามเพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุดในปี 2569" 


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง