กระแสเก็งกําไร TASCO กลับมา หากเวเนซูเอลาถูกยกเลิก Sanction
![กระแสเก็งกําไร TASCO กลับมา หากเวเนซูเอลาถูกยกเลิก Sanction](https://cms.dmpcdn.com/contentowner/2020/08/18/15980f10-e133-11ea-8e82-0b494f6be91c_original.jpg)
![กระแสเก็งกําไร TASCO กลับมา หากเวเนซูเอลาถูกยกเลิก Sanction](https://cms.dmpcdn.com/news/2022/03/10/2f859770-a01e-11ec-87ec-f94aea883ed8_original.jpeg)
#TASCO #ทันหุ้น - บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS มองหลังประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ประกาศว่าจะดำเนินการห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย เพื่อลงโทษที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าเจ้าหน้าที่ของสหรัฐได้มีการหารือกับเวเนซูเอลาถึงความเป็นไปได้ในการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันในเวเนซูเอลา เพื่อให้เวเนซูเอลาสามารถขายน้ำมันสู่ตลาดสากลได้อีกครั้ง เพื่อชดเชยน้ำมันรัสเซียที่ขาดหายไป
ทำให้เกิดกระแสเก็งกำไรในหุ้น TASCO ที่อดีตเคยนำเข้าน้ำมันดิบจากเวเนซูเอลาเป็นหลักในการผลิตยางมะตอย แต่ถูกร้องขอจาก US State Department ให้ยุติการนำเข้าน้ำมันดิบจากเวเนซูเอลาตั้งแต่ พ.ย 63 ทำให้ TASCO ต้องหันไปซื้อน้ำมันดิบจากประเทศอื่นที่มีราคาสูงขึ้น และกระทบต่อกำไรอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงมีทิศทางกำไรที่ไม่สดใสจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่พุ่งสูง จนไม่คุ้มต่อการนำเข้ามาผลิตยางมะตอย
อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวยังไม่มีข้อยืนยันว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ในกรณีที่ TASCO ยังไม่สามารถนำเข้าน้ำมันดิบจากเวเนซูเอลาได้ การขายยางมะตอยในปีนี้จะเป็นการกลั่นจากสต็อกน้ำมันดิบเดิมที่น่าจะมีอยู่ราว 2 ล้านบาร์เรล บวกกับการซื้อยางมะตอยจากโรงกลั่นในภูมิภาคมาขายต่อ โดยมีอัตรากำไรที่ต่ำกว่าการกลั่นยางมะตอยขายเองราว 20-25% ซึ่งจะทำให้ฐานกำไรของ TASCO ลดลงมาอยู่ในช่วง 1-1.3 พันล้านบาท/ปี และมีราคาเหมาะสมที่ 17.30 บาท แต่หาก
TASCO สามารถนำเข้าน้ำมันดิบจากเวเนซูเอลาได้อีกครั้ง คาดฐานกำไรน่าจะกลับไปสู่ระดับ 2-2.5 พันล้านบาท/ปี และราคาเหมาะสมจะกลับไปที่ระดับ 22-25 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เคลื่อนไหวในช่วงปี 2559-2563 ก่อนที่เวเนซูเอลาจะถูกสหรัฐ Sanction