รีเซต

จับตางบกลุ่มรพ.ไตรมาส3 BCH-VIBHA กำไรพุ่งแรง

จับตางบกลุ่มรพ.ไตรมาส3 BCH-VIBHA กำไรพุ่งแรง
ทันหุ้น
30 ตุลาคม 2563 ( 10:05 )
72
จับตางบกลุ่มรพ.ไตรมาส3 BCH-VIBHA กำไรพุ่งแรง

ทันหุ้น –สู้โควิด –โบรกส่อง 7 หุ้นโรงพยาบาลไตรมาส 3/63 มีกำไรปกติที่ 1.96 พันล้านบาท เติบโต 155% จากไตรมาสก่อน หลังคลายล็อคดาวน์ เข้าช่วงไฮซีซัน หนุนอัตราผู้ป่วยกลับสู่ระดับ 70-80% พร้อมรับรายได้เสริมเข้าร่วมโครงการกักตัวจากโควิด-19 มอง BCH- VIBHA เติบโตเด่นสุด

 

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึงผลประกอบการกลุ่มโรงพยาบาล 7 แห่ง ในไตรมาส 3/2563 ว่าคาด มีกำไรปกติที่ 1,966 ล้านบาท เติบโต 155% จากไตรมาสก่อนหน้า, ลดลง 46% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยผลประกอบการฟื้นตัว จากไตรมาสก่อนหน้า หลังรัฐบาลมีการผ่อนปรนมาตรการล็อคดาวน์ ประกอบกับเข้าช่วงฤดูฝนซึ่งเป็นไฮซีซันของอุตสาหกรรมโรงพยาบาลส่งผลให้คนไข้ไทยจะกลับมาใช้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยในประเทศ ซึ่งในเดือน สิงหาคม - กันยายน อัตราการใช้บริการ ของผู้ป่วยในประเทศกลับสู่ระดับ 70-80%

 

*ประกันสังคม-โควิดหนุน

ขณะที่โรงพยาบาล ที่มีรายได้จากประกันสังคม และเน้นผู้ป่วยในประเทศ อย่าง BCH และ VIBHA คาดว่าผลประกอบการจะ Outperform กลุ่ม โดยคาดว่า BCH มีกำไรทรงตัวในระดับสูงใกล้เคียงปีก่อน เนื่องจากได้ประโยชน์จาก การให้บริการตรวจเชื้อ COVID-19 มาชดเชยกับรายได้จากกลุ่มลูกค้าปกติที่หายไป ส่วน VIBHA คาดกำไรปกติ (เทียบปีก่อนไม่รวมรายการพิเศษกำไรจากการขายหลักทรัพย์เผื่อขาย) กลับมาเติบโต 3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากสัดส่วนลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าไทย ซึ่งเริ่มกลับมาใช้บริการเป็นปกติ

 

สำหรับภาพรวมปี 2563 คาดกำไรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ 8,624 ล้านบาท ลดลง 32% จากช่วงเดียวกันปีก่อน อย่างไรก็ตาม คาดกลุ่มโรงพยาบาลที่รับลูกค้าประกันสังคมเป็นหลัก ผลประกอบการจะ Outperform กลุ่ม เนื่องจากได้รับผลบวกจากการที่ประกันสังคมปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัว ราว 5.6% ในช่วงต้นปี เป็น 3,959 บาทต่อหัว ชดเชยรายได้จากผู้ป่วยเงินสดที่ลดลง

 

อีกทั้งมีรายได้จากการให้บริการตรวจ COVID-19 ซึ่งเคสสูงสุดในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนช่วยชดเชยชดเชยรายได้จากผู้ป่วยเงินสดที่ลดลง ส่วนปี 2564 เบื้องต้นคาดผลประกอบการฟื้นตัว 43% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็น 12,345 ล้านบาท อิงสมมติฐาน สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั่วโลกเริ่มคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น และสามารถคิดค้นวัคซีนรักษาได้

 

*BCH-VIBHA เด่นสุด

ทั้งนี้คาดว่า BCH เป็นบริษัทเดียวที่มีกำไรเติบโต จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากได้รับผลบวกจากการที่ประกันสังคมปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัว ราว 5.6% ในช่วงต้นปี เป็น 3,959 บาทต่อหัว แนะนำ “ซื้อ” BCH (ราคาเป้าหมาย 19.30 บาท ซึ่งเลือกเป็น Top pick ของกลุ่ม คาดกำไรสุทธิใน ไตรมาส 3/2563 ที่ 403 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 45% จากไตรมาสก่อนหน้า

 

ขณะที่VIBHA คาดการกำไรปกติ ไตรมาส 3/2563 ที่ 174 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนไตรมาสก่อนที่ 14 ล้านบาท และเติบโต 3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (เทียบ ไตรมาส 3/2562 ไม่นับรวมรายการกำไรจากการขายเงินลงทุน 209 ล้านบาท) มองว่าหุ้น VIBHA ผ่านจุดแย่สุดไปแล้ว คงมูลค่าพื้นฐานปี 2564 ที่ 1.78 บาท

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง