'เอเซีย พลัส' สแกน "CENTEL" โรงแรมไทย-ญี่ปุ่น ชดเชยมัลดีฟส์
#ทันหุ้น - บล.เอเซีย พลัส ระบุ จาก CENTEL IR Luncheon Meeting วันศุกร์ที่ 17 ม.ค. 68 (12.00 – 13.30 น.) หลักๆ คือ เป้าหมายรายได้ปี 2568 (เบื้องต้นดีกว่าสมมติฐานฝ่ายวิจัย แต่โรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์ อาจขาดทุนมากกว่าที่คาดไว้เดิม 2-3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มาที่ 4-5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (โรงแรมแห่งที่ 2 จำนวน 142 ห้อง เลื่อนไปเปิด Q2/68 จากเดิม Q1/68) ขณะที่ราคาหุ้น YTD ลบ 13% น่าจะสะท้อนปัจจัยดังกล่าวแล้ว
สำหรับ Stat ธุรกิจโรงแรม (ไทย + มัลดีฟส์ + ญี่ปุ่น) งวด Q4/67 ในเชิงรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก หรือ RevPar ขยับมาที่ 3,922 บาทต่อห้องต่อคืน เติบโต 4% YoY (18% QoQ ตามฤดูกาล) ผลักดันด้วยค่าห้องพักเป็นหลัก (ADR) มาจากโรงแรมกรุงเทพฯ (+7% QoQ,+13% YoY), ต่างจังหวัด (+32% QoQ, +7% YoY) และญี่ปุ่น (15% QoQ, +17% YoY)ชดเชยโรงแรมมัลดีฟส์ที่ RevPar ลบ 41% YoY (หากไม่รวมโรงแรมใหม่ 145 ห้อง ที่เปิดช่วง พ.ย. 67 ลดลง 24% YoY)
โดยรวม RevPar ปี 2567 (รวมโรงแรม JV ดูไบ) ที่ 4,089 บาทต่อห้องต่อคืน เติบโต 12% YoY สอดคล้องกับเป้าหมายที่ 4,000 –4,300 บาทต่อห้องต่อคืน
สำหรับปี 2568 เป้าหมายรายได้ (รวม JV) แบ่งเป็น 1.) ธุรกิจโรงแรม เติบโตราว 23% YoY มาที่ 1.5 หมื่นล้านบาท (โรงแรม JV มีรายได้ราว 2 พันล้านบาท) หนุนด้วยการกลับมาเปิดโรงแรมใหญ่ที่พัทยา หลังปรับปรุงแล้วเสร็จเมื่อช่วง ธ.ค. ที่ผ่านมา รวมทั้งโรงแรมญี่ปุ่น ขยายตัวดีต่อจากงาน World expo ชดเชยการปิดปรับปรุงโรงแรมหัวหิน (ทยอยปิดทีละส่วน) และกระบี่ (ปิดปรับปรุงครั้งเดียว)
2.) ธุรกิจร้านอาหาร เพิ่ม 13% YoY เท่ากับ 1.8 หมื่นล้านบาท (รายได้ร้านอาหารจาก JV ปี 2567 ประมาณ 2.8 พันล้านบาท) การขยายตัวมุ่งเน้นไปที่แบรนด์ JV เป็นหลัก เนื่องจากมี EBIT Margin สูงกว่าร้านเดิมของ CENTEL ราว 1% -1.5% โดยร้านอาหาร JV ในกลุ่ม Shinkanzen Sushi มีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ที่ Central World อย่าง Nama และ Katsu Midori ค่อนข้างได้รับความนิยม
ความเห็นฝ่ายวิจัย : ภาพรวมมองว่าประมาณการกำไรปี 2568 ที่ 1,590 ล้านบาท (+14% YoY) ยังพอเป็นไปได้ (แต่อาจต่ำกว่าที่ BB Consensus ทำไว้ 1.8 พันล้านบาท) จากรายได้รวมสูงกว่าสมมติฐานฝ่ายวิจัยประมาณ 10% ชดเชยโรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์ขาดทุนกว่าเป้าเดิม
ราคาหุ้น YTD ที่ลบราว 13% (SET ลบ 4%) น่าจะสะท้อนโรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์มาช้ากว่าคาดไปบางส่วนแล้ว ส่งผลให้ PER ปี 2568 ลงมาซื้อขาย 26 เท่า (23 เท่า ในปี 2569) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปี 2560 –62 ที่ 27 เท่า ฝ่ายวิจัยยังคงชอบ CENTEL เพราะคาดการเติบโตของกำไร 3 ปีข้างหน้าเฉลี่ย (CAGR ปี 2568 – 70) ที่ 15% ต่อปี สูงกว่ากำไรกลุ่มโรงแรม (CENTEL, ERW และ MINT) ที่ฝ่ายวิจัยประเมิน CAGR ไว้ 11% ต่อปี หลังโรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์ ทยอยผ่านจุดคุ้มทุน ขณะที่การขยายธุรกิจร้านอาหารเน้นไปยังแบรนด์ JV ที่มีมาร์จิ้นสูง มองช่วยยกระดับ ROE ในช่วงถัดไป คงแนะนำ Outperform ราคาเป้าหมาย 48.00 บาท