Mลั่นมาร์จิ้นโตต่อเนื่อง ลุยอัพสาขา-SSSGโตดี

#M #ทันหุ้น – Mมุ่งรักษาอัตรากำไรขั้นต้นทั้งปี 2568 เติบโตต่อเนื่อง หลังคุมต้นทุนอยู่ เดินหน้าขยายสาขา 3 แบรนด์หลัก “เอ็มเค ยาโยอิ แหลมเจริญ” และแบรนด์ใหม่จากญี่ปุ่น หวังอัพฐานลูกค้า หลัง SSSG โค้งแรกเติบโตได้ดี จากกำลังซื้อที่มีแนวโน้มเร่งตัวตามการกระตุ้นภาครัฐ

ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M เปิดเผยกลยุทธ์การดำเนินงานปี 2568 ว่า กลุ่มบริษัทยังคงมุ่งรักษามาตรการการบริหาร และโภชนาการในอาหารทุกแบรนด์ของกลุ่มบริษัท โดยมุ่งนำเสนอความคุ้มค่าในราคา และคุณภาพอาหาร ทั้งนี้จะมุ่งเน้นการเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GPM) ให้อยู่ในอัตราที่น่าพึงพอใจ จากทั้ง 1.การบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงาน   2.การควบคุมต้นทุนวัตถุดิบหลักอาทิ เป็ด เนื้อหมู ผักสด ฯลฯ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

“การแข่งขันในธุรกิจอาหารยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะการเข้ามาแข่งขันของแบรนด์ใหม่ๆ ที่แทรกเข้ามาชิงส่วนแบ่งการตลาดในทุกระดับ ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคอ่อนแลลงมาอย่างต่อเนื่อง กลุ่มบริษัทจึงเลือกบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งต้นทุนการดำเนินงาน และการควบคุมต้นทุนวัตถุดิบทั้งการเข้าซื้อที่ราคาตลาด และการทำสัญญาล็อกราคาไว้ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ โดยไม่ลดมาตรฐานคุณภาพอาหาร และงานบริการ โดยมุ่งรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้เติบโตต่อเนื่องเป็นหลัก”

*ลุยขยายสาขา

พร้อมกันนี้ยังเดินหน้าขยายสาขา 3 แบรนด์หลัก อาทิ MK Suki, Yayoi, แหลมเจริญซีฟู้ด, “ฮิคินิคุ โตะ โคเมะ”(Hikiniku To Come) แบรนด์สุดฮิตจากญี่ปุ่น ซึ่งเริ่มเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัล เวิลด์ (Central World) ไปเมื่อไตรมาส 4/2567 ที่ผ่านมาก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างดี จึงมีแผนการขยายสาขาต่อเนื่องในปีนี้ รวมถึงการเปิดสาขาแบบมัลติแบรนด์ รวมแบรนด์อาหารที่หลากหลายไว้ในร้านเดียวกัน มุ่งตอบสนอบความต้องการที่แตกต่างของกลุ่มเพื่อน และครอบครัว รวมถึงยังคงพิจารณาปรับกลยุทธ์การตลาดแบบยืดหยุ่น ปรับโปรโมชั่นให้เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา อาทิการเปิดแบบบุฟเฟต์ การออกเมนูเฉพาะเทศกาล ฯลฯ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องทั้งปี

“การขยายสาขายังคงมุ่งเน้นการขยายไปพร้อมกับศูนย์การค้า โครงการขนาดใหญ่ โดยยังคงพิจารณาขยายใน 3 แบรนด์หลักของบริษัท และ YAKINIKU LIKE ที่อาจเห็นการขยายเพิ่มหลายสาขา เพื่อเจาะเข้าสู่ลูกค้าเป้าหมายกลุ่มใหม่ๆ ส่วนรูปแบบมัลติแบรนด์จะพิจารณาเปิดในทำเลที่เหมาะสมอาทิ ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา”

*ยอดขาย SSSG เด้ง

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2568 มีปัจจัยหนุนที่หลากหลาย ทั้งบรรยากาศเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ต่อเนื่องเทศกาลตรุษจีนเดือนมกราคม 2568 รวมถึงมาตรการกระตุ้นจิตวิทยาการใช้จ่ายของภาครัฐบาล ทั้งโครงการลดหย่อนภาษี Easy e-Receipt, โครงการเงินดิจิทัล ผู้สูงอายุ 1 หมื่นบาท ต่อเนื่องเทศกาลวาเลนไทน์ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 คาดว่าจะกระตุ้นจิตวิทยาการจับจ่ายใช้สอย ใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว รวมถึงการจัดการของไหว้ในวันตรุษจีน

“เบื้องต้นคาดว่ายอดขายต่อสาขาน่าจะเร่งตัวขึ้นมาได้จากบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย หลายเทศกาลต่อเนื่องกว่า 1 เดือน ซึ่งจากการประเมินต้นทุนวัตถุดิบหลักๆ ยังมีแนวโน้มทรงตัวต่อเนื่องจากช่วงไตรมาส 3/2567 ที่ผ่านมา ซึ่งก็ยังอยู่ในระดับที่เป็นปัจจัยหนุนศักยภาพการทำกำไรได้”

*แนะซื้อเป้า 30 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) คาดเห็นการเติบโตหลังจากนี้จะเป็นการเสริมเบรนด์ใหม่ๆเข้ามาในพอร์ตตัวอย่างเช่น Hikiniku To Come “ฮิคินิคุ โตะ โคเมะ” ร้านแฮมเบิร์กที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ รวมถึงการเปิดสาขารูปแบบมัลติแบรนด์ ฯลฯ เบื้องต้นคาดการณ์กำไรสุทธิทั้งปี 2567 ที่ 1,437 ล้านบาท ลดลง 15% YoY แต่จะเร่งตัวขึ้น 2% YoY ในปี 2568 แตะ 1,469 ล้านบาท จึงแนะนำ “ซื้อ” เป้า 30 บาท พร้อมประมาณการอัตราการจ่ายเงินปันผลปี 2567 ที่5.9% และ 6.1% ในปี 2568