รีเซต

“ค้าภายใน” ยันตรึงราคา 18 กลุ่มสินค้าจำเป็น ส่วนเนื้อหมู ทรงตัว

“ค้าภายใน” ยันตรึงราคา 18 กลุ่มสินค้าจำเป็น ส่วนเนื้อหมู ทรงตัว
มติชน
27 มีนาคม 2565 ( 18:41 )
54
“ค้าภายใน” ยันตรึงราคา 18 กลุ่มสินค้าจำเป็น ส่วนเนื้อหมู ทรงตัว

ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิดในเรื่องกระแสราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคที่ปรับสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามได้รับมอบนโยบายจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการขอความร่วมมือผู้ผลิตและผู้จำหน่ายตรึงราคาขายปลีก เพื่อไม่ได้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

 

ขณะเดียวกันได้ประชุมหารือในแต่ละกลุ่มสินค้าก็ยอมรับว่ามีผู้ผลิตสินค้าในหลายกลุ่มและหลายยี่ห้อมีการยื่นขอปรับราคามายังกรมการค้าภายใน ซึ่งก็ใช้หลักการพิจารณาเป็นรายๆ โดยพิจารณาบนพื้นฐานต้นทุนการผลิตและบริหารจัดการสูงขึ้นจริง จากปัจจัยต่างๆ ทั้งราคาน้ำมันที่กระทบการต่อวัตถุดิบหลักและค่าขนส่ง เป็นต้น และแม้จะมีการพิจารณาตามที่เอกชนร้องขอก็จะพิจารณาปรับในอัตราที่น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้มีความเดือดร้อนทั้งกับผู้ประกอบการและผู้บริโภค

 

“เดือนเมษายนนี้คงต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง จริงๆได้หารือผู้ประกอบการมาต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ขอความร่วมมือให้ตรึงราคาสินค้า 18 กลุ่มไว้ก่อน แต่มีบ้างที่ขอปรับราคา ซึ่งกรมยังไม่ได้อนุมัติ เช่น กลุ่มอาหาร ส่วนปุ๋ยจะต่างจากสินค้ากลุ่มอื่น คงต้องให้ผู้ประกอบการขึ้นราคาบ้างตามต้นทุนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนวัตถุดิบต้องนำเข้าสูงขึ้นมากถึง 40-60% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่การขึ้นราคาคงไม่ถึง และต้องพิจารณาเป็นรายๆ เพราะแต่ละรายมีต้นทุนไม่เท่ากันและใช้สูตรไม่เหมือนกัน” ร้อยตรีจักรากล่าว

 

ร้อยตรีจักรากล่าวว่า สำหรับการปรับราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเป็น 3.40 บาท เกิดจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้น ประกอบกับเข้าหน้าร้อน ส่งผลต่อการผลิตไข่ไก่ออกสู่ตลาดน้อย และมีขนาดเล็ก ผู้ผลิตจึงต้องปรับราคา แต่ไม่ได้ปรับขึ้นมากครั้งละ 10-20 สตางค์/ฟอง และราคาขายปลีกยังไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับราคาขายเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 3.60 บาท/ฟอง ส่วนเนื้อหมู โดยภาพรวมราคายังทรงตัวอยู่ที่ 150-151 บาท/กิโลกรัม ขณะที่น้ำมันพืชทั้งน้ำมันปาล์มและถั่วเหลือง ยังไม่มีการขาดตลาด และราคาขายปลีก 68 บาท/ขวด(ขนาด 1 ลิตร) ยังต่ำกว่าราคาต้นทุนที่กำหนด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 18 กลุ่มสินค้าที่มีการควบคุมราคา ได้แก่ 1.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2.หมวดอาหารสด 3.อาหารกระป๋อง 4.ข้าวสารถุง 5.ซอสปรุงรส 6.น้ำมันพืช 7.น้ำอัดลม 8.นมและผลิตภัณฑ์จากนม 9.เครื่องใช้ไฟฟ้า 10.ผลิตภัณฑ์ซักล้าง 11.ปุ๋ย 12.ยาฆ่าแมลง 13.อาหารสัตว์ 14.เหล็ก 15.ปูนซีเมนต์ 16.กระดาษ 17.ยา เวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ 18.บริการผ่านห้าง ค้าปลีก-ส่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง