EPGเป้าหมาย6.50บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ออกบทวิเคราะห์คงคำแนะนำ ซื้อ บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ให้ราคาเป้าหมายที่ 6.50 บาท โดยเมื่อวานนี้ EPG ได้จัดประชุมนักวิเคราะห์เพื่อให้มุมมองธุรกิจในปี 2564 ในภาพรวมนั้นค่อนข้างเป็นทางลบ หลักๆ เนื่องจากผลกระทบจาก covid-19 ยอดขายในภาพรวมจะลดลงราว 12% ในปีนี้ รายได้ยางฉนวนจะคงที่ yoy และอัตรากำไรขั้นต้นจะคงที่ 42% และ 42.4%
ในปี 2563 คาดการณ์รายได้จะเปลี่ยนจาก +20% ก่อนการระบาด Covid-19 ส่วนรายได้จากธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์จะลดลงราว 25% ในปี 2564 เนื่องจากการห้ามดำเนินการผลิตในเมษายนและพฤษภาคม และกำไรขั้นต้นจะลดลงสู่ 23% จาก 25.9% แต่การลดลงของรายได้นั้นดีกว่าบริษัทอื่นในอุตสาหกรรม (-40% สู่ -50%) จากการที่ EPG มีรายได้หนึ่งในสามมาจากผู้ผลิตยานยนต์ ส่วนที่เหลือเป็นส่วนของการส่งออกและตลาดบริการหลังการขาย ส่วนของกิจการบรรจุภัณฑ์ จะยังเผชิญกับการชะลอตัวของการบริโภคในประเทศ (คิดเป็น 90% ของยอดขาย) ซึ่งนี่อาจนำไปสู่การลดลงของยอดขายถ้วย ซึ่งนำไปสู่ยอดขายที่คงที่ (flat) ในปี 2564 แม้ว่าจะมียอดขายที่เพิ่มขึ้นในบรรจุภัณฑ์อาหาร
นอกจากนี้ EPG ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์หน้ากากอเนกประสงค์ (EP-Kare) ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ผู้บริหารคาดว่าจะพัฒนาคุณภาพให้ถึงระดับหน้ากากสำหรับการผ่าตัดและสามารถส่งออกได้ กำไรขึ้นต้นของธุรกิจบรรจุภัณฑ์จะอยู่ที่ราว 18-21% เทียบกับ 19% ในปี FY20 และกำไรจากกิจการร่วมค้าจะลดลงสู่ระดับ Bt100m จาก Bt125m ใน FY20 จากการที่สามในห้าของกิจการร่วมค้านั้นเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์
EPG จะมุ่งเน้นที่การลดต้นทุนและค่าว่าจะลดต้นทุนได้ราว 1-2ppt เพื่อลดผลกระทบจากยอดขายที่ลดลง โดย EPG ได้เห็นถึงยอดขายที่ปรับตัวดีขึ้นในจีนในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ส่วนยอดขายในฟิลิปปินส์ อินโดนิเซีย เวียดนามจะยังคงอ่อนแอเนื่องจากปัญหาด้านการขนส่งและคาดว่าจะฟื้นตัวได้ในเดือนมิถุนายน สำหรับบริษัท TJM จะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นหลังจากการปรับโครงสร้าง โดยยอดขายของ TJM ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเดือนพฤษภาคมเมื่อเทียบกับเมษายน ซึ่งนี่จะคงดำเนินต่อไปในเดือนมิถุนายนจากการที่ออสเตรเลียได้เริ่มผ่อนคลายการ lockdown ในสัปดาห์ข้างหน้า (15 มิถุนายน) แต่เรายังคงระมัดระวังสำหรับการฟื้นตัวของTJM
อัตราการทำกำไรของ EPG จะยังคงอ่อนแอในระยะสั้นแต่ในอีกหกเดือนข้างหน้า เราคาดว่าแนวโน้มกำไรจะฟื้นตัวเนื่องจากการผ่อนคลายการ lockdown และการบริโภคจะเริ่มฟื้นตัว วัตถุดิบเคมีที่ถูกราว (40% ของต้นทุน) จะช่วยหนุนอัตรากำไรขึ้นต้นในอีกสองปีข้างหน้า ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท เทียบเท่า พีอีปี 2564ที่ 17.5เท่า และมีอัตราผลตอบแทนที่ 3.2%
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online