รีเซต

ส่องหุ้น "กลุ่มก่อสร้าง" ที่ต้องจับตา

ส่องหุ้น "กลุ่มก่อสร้าง" ที่ต้องจับตา
TrueID
1 มิถุนายน 2564 ( 12:28 )
865
ส่องหุ้น "กลุ่มก่อสร้าง" ที่ต้องจับตา

นักลงทันในตลาดหุ้นในช่วงนี้ ค่อนข้างคึกคัก จากการเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน ได้แก่ น้ำมัน และการผลิตไฟฟ้า แต่ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่มีนักวิเคราะห์ออกมาให้ความเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะสร้างกำไรได้ วันนี้ trueID จะพาไปส่องหุ้น"กลุ่มก่อสร้าง"ว่าจะมีโอกาศสร้างกำไรหรือไม่

 

 

  • ความคิดเห็นนักวิเคราะห์

 

ตามที่ นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้แนวโน้มตลาดหุ้นไทย(31พ.ค.-4 มิ.ย.64) คาดว่าดัชนี SET จะแกว่งตัวบริเวณ 1,575-1,600 จุด โดยปัจจัยภายในประเทศต้องติดตามอัตราการฉีดวัคซีนว่ามีพัฒนาการได้มากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงการประมูลของโครงการภาครัฐ ซึ่งจะเป็นบวกกับหุ้นกลุ่มก่อสร้าง ส่วนปัจจัยต่างประเทศยังไม่ได้มีปัจจัยลบกดดันตลาด แต่ต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ช่วงวันที่ 16 มิ.ย.64 

 

 

  • กลุ่มที่ต้องจับตา

 

ทั้งนี้ในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าของเดือน มิ.ย.นักลงทุนสามารถเล่นเก็งกำไรได้ต่อ แนะนำเล่นเก็งกำไรในหุ้นกลุ่ม Domestic Play และหุ้น Laggard (ราคายังไม่ปรับขึ้นเหมือนหุ้นตัวอื่นๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน ทั้งๆ ที่ปัจจัยพื้นฐานไม่มีความแตกต่างกัน)

 

โดยแนะนำหุ้นกลุ่มก่อสร้าง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ Laggard ค่อนข้างสูง เลือก CK เพราะมีบริษัทลูกทั้ง BEM, CKP, TTW ซึ่งรวมกันยังมี Discount อยู่เกือบ 30-40% นั่นหมายความว่าไม่ได้ให้มูลค่าของการก่อสร้างเลย ซึ่งจะเห็นได้ชัดในฝั่งของรัฐบาลกำลังจะเร่งการประมูลงาน เพราะในฝั่งการบริโภครัฐบาลอัดฉีดเงินไปแล้วค่อนข้างมาก แต่สิ่งหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นจีดีพีได้คือการก่อสร้าง ฉะนั้นหลังจากนี้จะมีงานก่อสร้างออกมามาก ซึ่งจะทำให้บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในกลุ่มก่อสร้างได้งานเพิ่มเติม

 

ที่ผ่านมาผลตอบแทนของดัชนีหุ้นไทย(SET) ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน(ม.ค.-28พ.ค.64) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.15% หรือ 132.63 จุด โดยทำจุดต่ำสุดที่ 1,466.98 จุด(29 ม.ค.64) และทำจุดสูงสุดที่ 1,596.27 จุด (2 เม.ย.64) โดยผลตอบแทนของดัชนี SET50 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.02% และ SET100 เพิ่มขึ้น 6.85%

 

 

  • TOP 10 หุ้นกลุ่มรับเหมา Mkt Cap สูงสุด

 

1.STEC ธุรกิจก่อสร้างงานทุกประเภททั้งงานโยธาและ งานเครื่องกล เช่น งานด้านระบบสาธารณูปโภค งานด้านอาคาร งานด้านพลังงาน งานด้านอุตสาหกรรม และ งานด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

 


2.ITD การก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคสิ่งอำนวยความสะดวก (ยกเว้นตัวอาคารของโรงงานอุตสาหกรรม) และโครงการวิศวกรรมโยธาอื่นๆที่เกี่ยวข้องในน้ำ

 


3.CK เป็นบริษัทก่อสร้างที่สามารถรับบริหารโครงการขนาดใหญ่ที่ซับซ้อนทุกรูปแบบ และมีความสามารถในการพัฒนา ลงทุน และบริหารโครงการสัมปทานระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานขนาดใหญ่ในประเทศและภูมิภาคอย่างครบวงจร

 


4.NWR ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและ ผลิตเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ตั้งแต่ปี 2519 ปัจจุบันบริษัทประกอบธุรกิจหลักประเภทรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธาทุกประเภท ผลิตเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงและผลิตภัณฑ์คอนกรีตอื่น รวมทั้งผลิตเหล็กแปรรูป ใช้เป็นวัสดุในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของบริษัทเอง และจำหน่ายให้กับลูกค้าภายนอก

 


5.SYNTEC รับเหมาก่อสร้าง ให้บริการรับงานทั้งหน่วยงานราชการ และเอกชน โดยให้บริการตั้งแต่งานวางรากฐานจนกระทั่งก่อสร้างอาคารเสร็จสมบูรณ์ในลักษณะที่เรียกว่า บริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ

 


6.UNIQ ดำเนินธุรกิจก่อสร้างที่มีความชำนาญ และประสบการณ์ด้านงานก่อสร้าง สะพาน ทางยกระดับ และงานอุโมงค์ทางลอด รวมทั้งงานด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานภาครัฐ

 


7.SEAFCO ผู้รับก่อสร้างงานเสาเข็มเจาะ งานฐานรากและงานโยธาทั่วไป โดยรับงานทั้งจากภาคราชการและภาคเอกชน บริษัทสามารถรับงานโดยตรงจากเจ้าของโครงการหรือรับงานช่วงต่อ (Sub-contract) จากผู้รับเหมาก่อสร้างหลัก (Main Contractor) ภาพรวมของบริการของบริษัทสามารถสรุปได้ดังนี้ 1) งานเสาเข็มเจาะ (Bored Pile) 2) งานกำแพงกันดิน (Diaphragm Wall) 3) งานก่อสร้างโยธา ซึ่งรวมถึงงานฐานรากต่างๆ และงานก่อสร้างอาคาร 4) งานบริการทดสอบต่างๆ

 


8.PLE ประกอบธุรกิจให้บริการออกแบบ จัดหา และรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมสำหรับอาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย โรงแรม โรงพยาบาล ศูนย์การค้า โรงงานอุตสาหกรรม

 


9.STPI บริษัทประกอบธุรกิจ แปรรูปโครงสร้างเหล็ก (Steel Structure Fabrication), งานประกอบและเชื่อมท่อ (Piping Fabrication), งานประกอบโรงงานสำเร็จรูป (Module) และงานแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กอื่นๆ โดยการนำเหล็กรูปพรรณ ท่อเหล็ก และเหล็กแผ่น มาตัดและประกอบตามแบบที่ลูกค้ากำหนด

 


10.EMC  ดำเนินธุรกิจทางด้านวิศวกรรมงานก่อสร้าง และ การวางระบบไฟฟ้าเครื่องกลในแขนงต่าง ๆ ที่ครบวงจร โดยแบ่งสายงานเป็น 2 สายหลัก คือ งานด้านวิศวกรรมก่อสร้างทั่วไป และ งานด้านวิศวกรรมระบบไฟฟ้า และ เครื่องกล โดยมีลักษณะงานในการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในรูปแบบต่างๆ

 

 

ข้อมูล: กรุงเทพธุรกิจ , set

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง