ชาวนาไทยช้ำหนัก เจอข้าวอินเดียราคาตกต่ำ ซ้ำด้วยภาษีทรัมป์ เสี่ยงทำส่งออกลดฮวบ

ชาวนาไทยกำลังแย่ เจอข้าวอินเดีย ทำราคาข้าวทรุดหนัก ส่งออกได้น้อยลงไม่พอ
วันนี้ พวกเขาเตรียมเจอกับวิกฤตจากกำแพงภาษีทรัมป์ จนข้าวไทยเสี่ยงส่งออกไปสหรัฐฯ ได้น้อยลงมหาศาล ทั้งที่สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกข้าวสำคัญของไทย
ไหมว่า ปีที่แล้ว ไทยส่งออกข้าวทั้งหมด 9.94 ล้านตัน โดยสหรัฐฯ เป็นผู้นำเข้าอันดับ 3 ของไทย นำเข้าข้าวไทย 849,000 ตัน รวมมูลค่ากว่า 28,000 ล้านบาท
แต่หากข้าวไทยเจอภาษีทรัมป์ 36% หมายความว่าข้าวไทยจะแพงขึ้น สหรัฐฯ ก็นำเข้าน้อยลง เพราะไปนำเข้าจากชาติอื่นจะได้ราคาถูกกว่า
นับแต่ปีที่แล้ว ชาวนาไทยเจอวิกฤตรุนแรง จากการที่อินเดียกลับเข้าสู่ตลาดส่งออกข้าว ทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกตกหนัก
"ป้าคนโบราณ แต่ลูก ๆ ฟังอยู่ ลูก ๆ ก็บอก เราจะอยู่กันไม่ได้แล้วล่ะแม่ สภาพแบบนี้ ต่างประเทศเขาอย่างนั้น" ชาวนาหญิงคนหนึ่ง กล่าว
"ปัญหาก็คือ ข้าวถูกมาก ปุ๋ยแพงมากขึ้น ค่าเช่านาแพงมาก มันไม่สมดุลกัน ขาดทุนนะ"
สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ชี้ว่า ผลการเจรจาภาษีทรัมป์ของรัฐบาลไทย จะเป็นตัวชี้ขาดว่า อนาคตอุตสาหกรรมข้าวไทยจะรอดหรือไม่
ยกตัวอย่าง หากเวียดนามเจรจาภาษีได้ดี ลดภาษีจาก 46% เหลือลงมาต่ำกว่า 40% ข้าวไทยจะเสียความสามารถแข่งขันทันที เพราะข้าวเวียดนามมีต้นทุนต่ำกว่าไทยมาก
"ถ้าภาษีสูง ราคาของเราก็ยิ่งแพงมากขึ้น สมมติภาษี 30% เราขายอยู่ 1 พัน หมายความว่าคุณต้องบวกไป 300 เหรียญ ก็เป็นราคาที่ค่อนข้างสูงมาก ในขณะที่ของเวียดนาม ซึ่งไม่ทราบว่า เขาจะเจรจาได้อยู่ที่เท่าไหร่ สมมติเขาอยู่ที่ 580 แล้วเขาเจรจามาได้ เหลือสัก 40% ช่องว่างระหว่างข้าวไทยและเวียดนามก็จะมากขึ้น เพราะว่าฐานราคาของเราสูงกว่าเขาค่อนข้างเยอะ" ชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุ
ราคาข้าวในไทยตอนนี้ ตกลงไปถึง 30% การส่งออกในไตรมาสแรกของไทยก็ตกลงไป 30% ด้วย เพราะหลายประเทศชะลอการซื้อข้าว หลังอินเดียกลับมาส่งออกข้าวเมื่อปลายปีที่แล้ว
ทำให้ภาพลักษณ์ส่งออกข้าว 3 เดือนจากนี้ ไม่สู้ดีนัก และจะยิ่งแย่ หากรัฐบาลไทยเจรจาภาษีทรัมป์ได้ไม่สำเร็จ โดยภาษีทรัมป์จะมีผลบังคับใช้ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้แล้ว
ดังนั้น ผลการเจรจาข้ามซีกโลก จะกระทบมาถึงชาวนาไทยอย่างแน่นอน