รีเซต

ช่องทางติดต่อขอรับ "ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)" ใครได้ใช้บ้าง มีพอผู้ป่วยโควิดหรือไม่

ช่องทางติดต่อขอรับ "ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)" ใครได้ใช้บ้าง มีพอผู้ป่วยโควิดหรือไม่
Ingonn
25 กรกฎาคม 2564 ( 15:51 )
5.7K
ช่องทางติดต่อขอรับ "ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)" ใครได้ใช้บ้าง มีพอผู้ป่วยโควิดหรือไม่

ปัจจุบันสถานการณ์การการระบาดโรคโควิด-19 มีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้มีการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ถึงประมาณวันละ 3 แสนเม็ดหรือเดือนละประมาณ 9 ล้านเม็ดซึ่งเคยมีกระแสยาฟาวิพิราเวียร์ไม่เพียงพอรักษาผู้ป่วย เนื่องจากผู้ป่วย 1 คน ต้องใช้ยาประมาณ 70 เม็ด แต่ล่าสุดทาง กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมายืนยันแล้วว่าได้มีการสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ ที่นำมาใช้กับกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง 5 แสนเม็ดแล้ว

 

 

วันนี้ TrueID จะพามาอัปเดตสถานการณ์ยาฟาวิพิราเวียร์ในไทย หลัง อย. อนุมัติใช้และผลิตเองในไทยแล้ว สามารถนำมาใช้กับใครได้บ้างและติดต่อขอรับยาได้อย่างไร

 

 

 

ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) เป็นยาต้านไวรัสที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส SARS CoV2 ที่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ปัจจุบันยาฟาวิพิราเวียร์ถือเป็นยาหลักในการรักษาผู้ป่วยตามแนวทางการดูแลรักษาโดยกรมการแพทย์ เนื่องจากยานี้มีประสิทธิภาพในการลดปริมาณไวรัสได้ดี และจากการวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังของผู้ป่วยโควิดในประเทศไทย พบว่าการรักษาด้วยยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะรุนแรงของโควิด-19

 

 


ล่าสุดยาฟาวิพิราเวียร์ ภายใต้ชื่อ ฟาเวียร์ (200 มิลลิกรัมต่อเม็ด) ขององค์การเภสัชกรรม ที่วิจัย พัฒนาและผลิตเอง ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว ต้นสิงหาคมนี้เริ่มกระจายเข้าระบบการรักษาผู้ป่วยโควิด-19  โดยระยะแรกผลิตได้ไม่น้อยกว่าเดือนละ 2 ล้านเม็ด และจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

 


ตอนนี้มียาฟาวิพิราเวียร์ อยู่เท่าไหร่

 

ล่าสุดวันที่ 14 ก.ค. มียาฟาวิพิราเวียร์ 200 มิลลิกรัม จำนวน 4,017,781เม็ด แบ่งเป็น


1.อยู่ที่องค์การเภสัชกรรม(อภ.) 2,170,782 เม็ด 

 


2.อยู่ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 1,015,284 เม็ด ซึ่งกระจายอยู่ทุกจังหวัด 

 


3.อยู่ที่กรมการแพทย์ 801,567 เม็ด 

 


4.อยู่ที่กรมควบคุมโรค 30,148 เม็ด

 

 

 

 

ไทม์ไลน์แผนการจัดหายาฟาวิพิราเวียร์


ยาทั้งหมดเพียงพอต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยในส่วนของเดือนส.ค.-ก.ย. ก็ได้เตรียมแผนจัดซื้ออีกเดือนละ 2 ล้านเม็ด เพื่อพร้อมรับสถานการณ์และสอดคล้องกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ส่วนการจัดหานั้น วางแผนถึง ก.ย. ตั้งใจจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ ทั้งสิ้น 21 ล้านเม็ด ดังนี้

 


วันที่ 17 ก.ค. จะมีเข้ามาในประเทศ 3.5 ล้านเม็ด

 


วันที่ 20 ก.ค. เข้ามาจำนวน 3.1 ล้านเม็ด 

 


วันที่ 23 ก.ค. เพิ่มเข้ามาอีก 5.5 ล้านเม็ด 

 


วันที่ 27 ก.ค. อีก 4 ล้านเม็ด ทั้งหมด 16 ล้านเม็ด 

 


เดือน ส.ค. มีแผนนำเข้ามาอีก 2 ล้านเม็ด 

 


เดือน ก.ย. 2 ล้านเม็ด

 

 

 

 

 

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ปรับแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา ป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลกรณีโรคโควิด-19 พร้อมเปิดแนวทางการให้ ยาฟาวิพิราเวียร์ เร็วที่สุดในกลุ่มผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง

 

 

ขณะที่ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการสบายดี ให้พิจารณา ยาฟ้าทะลายโจร ขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ ตามรายละเอียดฉบับปรับปรุง วันที่ 21 ก.ค. 2564

 

 

แนวทางการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ รักษาผู้ป่วยโควิด (21 ก.ค. 64)

 

1.ผู้ติดเชื้อโควิดไม่มีอาการ หรือสบายดี แนะนำให้แยกกักตัวที่บ้าน หรือในสถานที่รัฐจัดให้อย่างน้อย 14 วัน นับจากวันที่ตรวจพบเชื้อ ให้ดูแลรักษาตามดุลยพินิจของแพทย์ ไม่ให้ยาต้านไวรัส เนื่องจากส่วนมากหายได้เอง และอาจได้รับผลข้างเคียงจากยา พิจารณาให้ยาฟ้าทะลายโจรในกลุ่มที่ไม่มีอาการขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์

 

 

2.ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง/โรคร่วมสำคัญ ภาพถ่ายรังสีปอดปกติ

 

- พิจารณาให้ยาฟาวิพิราเวียร์ เริ่มให้ยาเร็วที่สุด

 

- หากตรวจพบเชื้อมาเกิน 7 วัน และผู้ป่วยไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย อาจไม่จำเป็นต้องให้ยาต้านไวรัส เพราะผู้ป่วยกลุ่มนี้น่าจะหายได้เอง โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน

 

- แนะนำให้แยกกักตัวที่บ้าน หรือในสถานที่รัฐจัดให้ หากเข้าเกณฑ์ที่จะรับการรักษาแบบ Home isolation หรือ Community isolation ก็สามารถให้การรักษาในลักษณะดังกล่าวได้ โดยให้ปฏิบัติตามหลักการแยกโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เป็นเวลาอย่างน้อย(รวมทุกระบบรักษา) 14 วัน นับจากวันที่เริ่มมีอาการหรือจนกว่าอาการจะดีขึ้น อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง

 

 

3.ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง หรือมีโรคร่วมสำคัญ หรือผู้ป่วยที่มีปอดบวมเล็กน้อย ซึ่งไม่เข้าเกณฑ์ข้อ 4 ปัจจัยเสี่ยงข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ ได้แก่ อายุมากกว่า 60 ปี โรคปอดอุดกั้นเรื้อรรัง รวมโรคปอดเรื้อรังอื่นๆ โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมโรคหัวใจแต่กำเนิด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ ภาวะอ้วน ตับแข็ง ฯลฯ 

 

 

แนะนำให้รักษาในรพ. ให้อยู่ในระบบรักษาและแยกโรคอย่างน้อย 14 วัน แนะนำให้ยาฟาวิพิราเวียร์ โดยเริ่มให้เร็วที่สุด ให้ยานาน 5 วัน หรือมากกว่า ขึ้นอับอาการทางคลินิกตามความเหมาะสมหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เป็นต้น

 

 

4.ผู้ป่วยยืนยันที่มีปอดบวม หรือมีภาวะลดลงของออกซิเจน ฯลฯ แนะนำให้ยาฟาวิพิราเวียร์เป็นเวลา 5-10 วันขึ้นกับอาการทางคลินิก

 

 

 

ทั้งนี้ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ตามลิงค์ด้านล่าง

แนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)  สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564  

 

 


จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ต่อเมื่อเข้ารับการรักษาตามระบบ


ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งที่เข้าสู่ระบบการดูแลที่บ้านหรือที่ชุมชนแล้วแต่ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่ หรือผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบการดูแลที่บ้านหรือที่ชุมชน สามารถกรอกข้อมูลลงทะเบียนด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามลิงค์นี้ https://crmsup.nhso.go.th หรือเข้าทาง line โดย เพิ่มเพื่อน @nhso กดเมนู ลงทะเบียนระบบดูแลที่บ้าน Home Isolation ได้เช่นกัน

 

 

เพื่อเข้าสู่ระบบการดูแล ซึ่งจะได้รับการประเมินอาการด้วยวิดิโอคอลวันละ 2 ครั้ง อาหาร 3 มื้อ พร้อมกับได้รับปรอทวัดไข้แบบดิจิตอล เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว และยาฟ้าทะลายโจรและยาพื้นฐานอื่นๆ ในกรณีที่อาการแย่ลงจะมีการประสานส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาล โดยจะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์เพื่อประคองอาการในระหว่างประสานรอเตียงผู้ป่วย

 

 

หากผู้ติดเชื้อโควิด-19  ท่านใดที่ไม่สะดวกลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ กรณีสิทธิบัตรทองยังสามารถโทรมาที่สายด่วน สปสช. 1330 กด 14 สิทธิประกันสังคมโทร 1506 กด 6 ได้เช่นเดียวกัน

 

 

 

 


ช่องทางขอรับยาฟาวิพิราเวียร์เพิ่มเติม


ชมรมเภสัชชนชท ระดมอาสาสมัครเภสัชกร RX Volunteer ช่วย สปสช.ประสานติดตามข้อมูลและให้คำแนะนำการใช้ยา Favipiravir สำหรับผู้ป่วย Home Isolation ให้ได้รับยาได้เร็วขึ้นตามแนวทางรักษาใหม่ โดยมีเครือข่ายเภสัชกร นพย. กลุ่มเภสัชกรร่วมใจรับใช้สังคม อาจารย์และนักศึกษาเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยสยามและมหาสาคม ร่วมส่งอาสาสมัครมาช่วยงาน การประสานงานและให้คำแนะนำการใช้ยาแบบเจาะลึกถึงตัวผู้ป่วย

 


ติดต่อ ชมรมเภสัชชนบท << คลิก

 

 

 

 

วิธีการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์


ยาฟาวิพิราเวียร์อยู่ในรูปแบบยาเม็ด ขนาดยาที่ใช้สำหรับผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 9 เม็ดทุก 12 ชั่วโมงในวันแรก และลดเหลือครั้งละ 4 เม็ด ทุก 12 ชั่วโมงในวันที่เหลือ 

 

 

ผู้ที่น้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัม ขนาดยาจะสูงขึ้น โดยในวันแรกจะรับประทานครั้งละ 12 เม็ดทุก 12 ชั่วโมง และลดเหลือครั้งละ 5 เม็ด ทุก 12 ชั่วโมงในวันที่เหลือ 

 

 

สำหรับผู้ป่วยเด็กจะต้องมีการคำนวณขนาดยาตามน้ำหนักตัว ผู้ป่วยควรรับประทานยาตามวันและเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ระยะเวลาในการรักษาอยู่ที่ 5-10 วัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและการตอบสนองต่อการรักษาของผู้ป่วยแต่ละราย 

 

 

อาการข้างเคียงที่อาจพบได้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ตับอักเสบ เป็นต้น

 

 


ยาฟาเวียร์เป็นผลิตภัณฑ์ยาสามัญรายแรกของประเทศไทยมีคุณภาพมาตรฐานสากล จะเริ่มผลิตและกระจายให้ผู้ป่วยได้ใช้ในต้นเดือนสิงหาคมนี้ โดยในระยะแรกผลิตได้ไม่น้อยกว่าเดือนละ 2 ล้านเม็ด ที่โรงงานขององค์การฯที่ถนนพระราม 6 และจะขยายกำลังการผลิตไปยังโรงงานผลิตยาที่ คลอง10 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  การผลิตยาดังกล่าวขององค์การฯครั้งนี้ ทำให้ราคายาถูกลงกว่าการนำเข้ายาจากต่างประเทศ ส่งผลให้รัฐประหยัดค่าใช้จ่ายด้านยาของประเทศ

 

 

 


ข้อมูลจาก องค์การเภสัชกรรม , สปสช. , คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล , Hfocus , ชมรมเภสัชชนบท

 

 

 

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง