ญี่ปุ่นพัฒนา Smart Watch ตรวจจับการเสียเหงื่อ แจ้งเตือนก่อนอันตรายถึงชีวิต
สภาวะโลกร้อน กำลังทำให้อุณหภูมิของหลายประเทศพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้ง หรืออยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานาน ๆ เช่นคนงานก่อสร้าง ต้องเสี่ยงกับอันตรายจากการขาดน้ำมากไปโดยไม่รู้ตัว
เพื่อจัดการปัญหานี้ บริษัทในประเทศญี่ปุ่น จึงได้พัฒนาอุปกรณ์ สมาร์ตวอชต์ หรือนาฬิกาอัจฉริยะ ที่สามารถตรวจจับการสูญเสียเหงื่อของผู้สวมใส่ พร้อมแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ ให้ระวังการขาดน้ำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงการเกิดภาวะที่ร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไป จนเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
อุปกรณ์ชิ้นนี้มีชื่อว่า SKWL-1000 พัฒนาโดยบริษัทเทคโนโลยี Skinos โดยด้านในจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจสอบอุณหภูมิและความชื้นของอากาศ เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ มาตรวัดความเร่ง และเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิผิวหนัง
โดยทางผู้พัฒนากล่าวว่า เมื่อผู้ใช้งานสวมใส่อุปกรณ์ตัวนี้ มีเหงื่อออกมาทางผิวหนัง อากาศที่อยู่รอบ ๆ ของอุปกรณ์ก็จะเกิดความชื้น ทำให้เซ็นเซอร์ภายใน สามารถวัดความชื้นได้ และอุปกรณ์ก็จะส่งข้อมูลที่ได้นี้แบบระยะไกลผ่านระบบบลูทูธ เพื่อนำไปประมวลผล และแสดงออกมาเป็นรหัสสีที่ต่างกัน เพื่อบ่งบอกระดับการขาดน้ำของผู้ใช้งาน ในขณะที่สวมใส่อุปกรณ์
โดยถ้าหากตรวจพบภาวะขาดน้ำในระดับสูงหรือผิดปกติ ตัวนาฬิกาจะส่งการแจ้งเตือนอัตโนมัติให้ผู้สวมใส่ เพื่อให้พวกเขาหยุดพักและดื่มน้ำ ซึ่งระบบการแจ้งเตือนนี้ สามารถส่งไปยังแอปพลิเคชันบนมือถือของผู้ที่ดูแลคนที่สวมอุปกรณ์ได้ด้วย เช่น คนงานอาจจะเป็นผู้ใส่นาฬิกาอัจฉริยะนี้ แต่ข้อมูลก็จะถูกส่งไปยังหัวหน้างานด้วยเช่นกัน ทำให้พวกเขาสามารถสั่งให้คนงานพัก หรือดูแลคนงานได้ดีขึ้น
ทั้งนี้มีข้อมูลระบุว่า สภาวะอากาศที่ร้อนขึ้นในญี่ปุ่น กำลังเป็นภัยคุกคามเพิ่มขึ้นต่อสุขภาพของผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง โดยมีรายงานว่าจำนวนคนงานที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคลมแดด (heatstroke) เพิ่มขึ้นกว่าสี่เท่า ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รวมถึงยังมีเกษตรกร 29 ราย ที่เสียชีวิตจากโรคลมแดด (heatstroke) ทั่วประเทศญี่ปุ่นในปีที่แล้ว ตามตัวเลขจากกระทรวงเกษตรของประเทศ
การพัฒนาอุปกรณ์ชิ้นนี้ จึงอาจจะเป็นหนึ่งในตัวช่วย ที่ทำให้ผู้ที่ใช้งาน สามารถรับรู้ถึงสภาวะขาดน้ำ หรือสัญญาณเตือนของโรคทางสุขภาพ ที่เกิดจากความร้อนและการขาดน้ำต่าง ๆ เพื่อหาทางป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายถึงชีวิต ได้ง่ายและทันท่วงทียิ่งขึ้น
ข้อมูลจาก reutersconnect