SMD เล็งร่วมทุน รร.แพทย์รัฐ ลุยบิ๊กโปรเจ็กต์-ลุ้นพลิกกำไร
#SMD #ทันหุ้น – SMD ใส่เกียร์ดันผลงานครึ่งปีหลัง 2567 เทิร์นอะราวด์ รับปัจจัยหนุนงบรัฐออก หนุนธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์คึกคัก ฟาก “วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์” เล็งลงทุนบิ๊กโปรเจ็กต์ ร่วมทุนกับโรงเรียนแพทย์ภาครัฐ พร้อมหาพาร์ตเนอร์เพิ่ม ล่าสุดบอร์ดไฟเขียวจัดตั้งศูนย์ฉายแสงรักษามะเร็ง
ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือ SMD เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจเรียบร้อยแล้ว 100% ปัจจุบันดำเนินการค่อนข้างลงตัวแล้ว สำหรับทิศทางธุรกิจไตรมาส 3/2567 คาดธุรกิจเดิมของ SMD จำหน่ายอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์จะคึกคักมาก เพราะเป็นช่วงงบประมาณภาครัฐจะสนับสนุนโครงการต่างๆ ซึ่งช่วงที่ผ่านมางบล่าช้า และถูกเลื่อนมาในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ โดยคาดว่าจะมีงบออกมาอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงมองภาพการจำหน่ายอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์มีงบประมาณค่อนข้างมาก
// ไฮซีซันหนุน
ทั้งนี้งบประมาณภาครัฐ จะมีสัดส่วนคิดเป็นรายได้ให้กับธุรกิจเดิมของ SMD ประมาณ 60-70% ขณะที่ประเด็นการเมืองบริษัทมองว่าไม่มีผลกระทบกับธุรกิจของ SMD มากนัก แต่อาจจะมีผลต่อความรู้สึกของนักลงทุนมากกว่า ซึ่งบริษัทคาดทิศทางธุรกิจและผลประกอบารในไตรมาส 3/2567 จะพลิกเป็นบวก จากไฮซีซันการจำหน่ายอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์
ขณะที่ธุรกิจที่ 2 เอสเอ็มดีเอกซ์ (SMDX) จะเดินหน้าธุรกิจตามเมกะเทรนด์ โดยขยายธุรกิจเครื่องมือแพทย์เฉพาะทางด้านเวลเนส (Wellness) เพื่อตอบโจทย์เทรนด์การท่องเที่ยวทางการแพทย์ (Medical Tourism) และการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันมากขึ้น เช่น อุปกรณ์ Mild Hyperbaric Oxygen Chamber คาดจะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนในไตรมาส 4/2567
และธุรกิจที่ 3 เอสเอ็มดีไอ (SMDI) จะเดินหน้าธุรกิจตลาดทางด้านรังสีวินิจฉัย บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้ปีนี้ที่ 200 ล้านบาท และมีรายได้ในปีถัดไปที่ 900 ล้านบาท โดยบริษัทมีโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่เตรียมจะเข้าลงทุน และจะร่วมทุนกับโรงเรียนแพทย์ภาครัฐ และมองหาผู้ร่วมลงทุนเพิ่มเติม เนื่องจากการลงทุนเป็นโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่
** ตั้งศูนย์ฉายมะเร็ง
ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการบริหารเสนอขออนุมัติให้คณะกรรมการบริษัท พิจารณาอนุมัติให้บริษัท เข้าเสนอโครงการจัดตั้งศูนย์ฉายแสงรักษามะเร็งด้วยเครื่อง CT/Linac ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถรวมเครื่องทำ CT และเครื่องฉายแสงรักษามะเร็งด้วย Linac อยู่ในเครื่องเดียวกัน
โดยร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลของรัฐบาลต่างๆ ในรูปแบบ PPP หรือ Revenue Sharing ซึ่งโครงการขนาดใหญ่ทั้ง 3 โครงการนี้ มีมูลค่าของการลงทุนทั้งหมดประมาณ 600 ล้าน ตามที่คณะกรรมการบริหารเสนอมา ซึ่งเงินลงทุนทั้ง 3 โครงการนี้จะได้รับการสนับสนุนจากธนาคารต่างๆ จำนวนหนึ่ง และเงินทุนของบริษัทอีกส่วนหนึ่ง หากว่าบริษัทเป็นผู้ได้รับการคัดเลือก โดยโครงการทั้ง 3 โครงการนี้ จะทราบผลการคัดเลือกภายในปี 2567 ทุกโครงการ
ดร.วิโรจน์ กล่าวต่อว่า บริษัทมองภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2567 จะอยู่ในทิศทางเชิงบวก และคาดจะพลิกมีกำไร จากครึ่งปีแรกขาดทุน 5.18 ล้านบาท จากการปรับโครงสร้างธุรกิจและเดินหน้าธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ สำหรับรายได้ เดือนแรกปี 2567 บริษัทมีรายได้แล้วที่ 322.83 ล้านบาท