รีเซต

"ซีไอเอ็มบีไทย" เปิดเกมรุกธุรกิจเวลธ์จับลูกค้าเศรษฐี

"ซีไอเอ็มบีไทย" เปิดเกมรุกธุรกิจเวลธ์จับลูกค้าเศรษฐี
TNN ช่อง16
16 ธันวาคม 2563 ( 16:37 )
82
"ซีไอเอ็มบีไทย" เปิดเกมรุกธุรกิจเวลธ์จับลูกค้าเศรษฐี

น.ส.ดุษณี เกลียวปฏินนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์การออมและกลยุท์ลุกค้าบุคคลธนกิจ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า แผนงานบริหารจัดการความมั่นคั่ง(เวลธ์)ในปี 64 ธนาคารจะเน้นยุทธศาสตร์บริการเชิงลึก-ดิจิตอล เพื่อก้าวเป็น Bank of Choice เสนอความหลากหลายตอบสนองความต้องการส่วนบุคคล และประยุกต์ใช้งานข้อมูลให้เต็มศักยภาพ 

โดยมีเป้าหมายขยายส่วนแบ่งทางการตลาดจากการลงทุนฐานลูกค้าเวลธ์ทั้งหมด นอกจากนี้ซีไอเอ็มบีไทยยังมีแผนที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าเวลธ์ นำเอาหุ้นกู้ กองทุน เงินฝากมาเป็นหลักประกันขอสินเชื่อได้ไม่เกิน 50 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายเอยูเอ็มเติบโต 20% จากสิ้นปี 63 อยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท มีจำนวนลูกค้าพรีเฟอร์เพิ่ม 10,000 ราย จากปีนี้ 86,000 ราย เป็น 96,000 ราย ขณะที่รายได้จากค่าธรรมเนียมปี 64 คาดเติบโต 25%

" จะให้บริการเชิงลึก Deepening relationships เป็นการต่อยอดจุดแข็งของการมีทีมเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนที่มีใบอนุญาตและความเชี่ยวชาญ รวมถึงทีมวิจัยที่เจาะลึกราย sector ให้คำปรึกษาแนะนำการลงทุนแบบเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ปัจจุบันการลงทุนมีความเสี่ยง แต่การไม่ลงทุนเสี่ยงกว่า จะลงทุนให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมาย ต้องจัด Asset Allocation ซึ่งเราอัปเดทให้ทุกไตรมาส และอัปเดททันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญ ลูกค้า Wealth ปัจจุบันอยู่ที่  8.7 หมื่นราย”  

นายดนัย อรุณกิตติชัย ผู้บริหารที่ปรึกษาการลงทุน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า   ท่ามกลาง COVID-19 แต่สินทรัพย์หลายตัวให้ผลตอบแทนเป็นบวก สำหรับเศรษฐกิจปีหน้ามีแนวโน้มดีกว่าปีนี้ เพราะความกังวัลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจลดลงไปมาก จากปีนี้ GDP เกือบทุกประเทศติดลบ จะกลับมาบวกปีหน้า สำหรับกลยุทธ์การลงทุนปี 2564 หุ้นน่าจะทำได้ดี เพราะดอกเบี้ยต่ำ และรัฐบาลยังต้องกระตุ้นเศรษฐกิจอีกมาก

ส่วนอุตสาหกรรมที่มีทิศทางสดใส ได้แก่ หุ้น หมวด cloud computing เพราะ platform online ต้องอาศัยงานหลังบ้าน และมีทางเลือกให้ลงทุนหลากหลาย ถัดมา คือ หมวด e-commerce ค้าขายออนไลน์ และสุดท้าย หมวด health tech เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับสุขภาพที่ล้ำหน้ามากขึ้น สำหรับ Asset Allocation จากแนวโน้มดอกเบี้ยที่ยังต่ำต่อไปอีกอย่างน้อย 2 ปี หุ้นกู้เอกชนมีความน่าลงทุนมากกว่าพันธบัตรรัฐบาล จากโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้ที่จะลดลงค่อนข้างมาก นอกจากนี้ หุ้น 3 กลุ่ม ธนาคารชอบหุ้นกลุ่ม Regional ถัดมาคือ หุ้นกลุ่ม Global  ส่วนหุ้นไทยต้องรอเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเต็มที่อีกครั้ง



เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง