TIDLOR มั่นใจนักลงทุนจะสนใจจองซื้อหุ้น IPO คึกคัก
ข่าววันนี้ นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘TIDLOR’ เปิดเผยว่า เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 907,428,600 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนรวมกันไม่เกินร้อยละ 39.1 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก
นอกจากนี้ อาจจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Greenshoe หรือ Over-allotment Option) ไม่เกิน 136,114,200 หุ้น หรือไม่เกินร้อยละ 15.0 ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด ซึ่งถือเป็น IPO ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของหุ้นในกลุ่มธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ กำหนดช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นที่ 34.00 – 36.50 บาทต่อหุ้น เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยที่สนใจร่วมเป็นเจ้าของและเติบโตไปกับเงินติดล้อ
สามารถจองซื้อหุ้น TIDLOR ผ่านช่องทางออนไลน์ของตัวแทนจำหน่ายหุ้นทั้ง 3 ราย ในวันที่ 22 – 26 เมษายนนี้ กำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 หุ้นที่ราคาเสนอขายสุงสุดที่ 36.50 บาทต่อหุ้น โดยจะใช้วิธีจัดสรรหุ้นแบบ Small Lot First โดยคาดว่าจะสามารถประกาศผลการจัดสรรและรายชื่อผู้จองซื้อรายย่อยที่ได้รับการจัดสรรผ่านทาง https://www.settrade.com ได้อย่างช้าภายในวันที่ 28 เมษายนนี้
ซึ่งคาดว่านักลงทุนจะให้ความสนใจในการจองซื้อหุ้น IPO กันคึกคัก และจะนำหุ้นเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันแรก 10 พฤษภาคมนี้
นายวีรภัทร์ วิริยะโกวิทยา ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายบัญชีและการเงิน เปิดเผยว่า ธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันของเงินติดล้อมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยมียอดสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปี 2561 2562 และ 2563 อยู่ที่ 39,724.1 ล้านบาท 47,979.4 ล้านบาท และ 51,331.2 ล้านบาท ตามลำดับ และมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายหลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา
ขณะที่ ธุรกิจนายหน้าประกันภัยมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นแรงผลักดันมูลค่าและการเติบโตที่สำคัญ โดยเงินติดล้อมีค่าเบี้ยประกันวินาศภัยที่ขายได้ ณ สิ้นปี 2561 2562 และ 2563 อยู่ที่ 1,917.7 ล้านบาท 2,854.3 ล้านบาท และ 4,010.9 ล้านบาท ตามลำดับ ด้วยอัตราเติบโตร้อยละ 48.8 และ ร้อยละ 40.5 ในปี 2562 และ 2563 ตามลำดับ ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างปี 2561 – 2563 มีรายได้รวม 7,569.4 ล้านบาท 9,457.9 ล้านบาท และ 10,558.9 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 1,306.2 ล้านบาท 2,201.7 ล้านบาท และ 2,416.1 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีของกำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 36.0 ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยตั้งเป้ารายได้เฉลี่ย 3 ปี เติบโตร้อยละ 15-20
เงินติดล้อ ได้วางกลยุทธ์รักษาความเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ผ่านการขยายเครือข่ายอีกประมาณ 500 แห่งภายในปี 2566 และยังมองหาโอกาสในการสร้างการเติบโตจากการควบรวมธุรกิจหรือการเข้าซื้อกิจการในเชิงกลยุทธ์เพื่อขยายผลิตภัณฑ์และการให้บริการ และพัฒนาศักยภาพทางเทคโนโลยี ทั้งในประเทศและตลาดอื่นในภูมิภาคอาเซียนหากมีโอกาสที่เหมาะสม
ข่าวเกี่ยวข้อง :
- เตรียมต้อนรับหุ้น IPO น้องใหม่ 'ดอนเมืองโทลเวย์'
- ทำความรู้จักกับ หุ้น IPO ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้
- ดอนเมืองโทลเวย์ พร้อมขายหุ้น IPO เข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ 7 พ.ค.นี้
- 7 เรื่องควรรู้ก่อนลงทุนหุ้น IPO "ทางยกระดับดอนเมือง"
- "NSL" หุ้น IPO น้องใหม่ พร้อมเสิร์ฟ Sandwich ร้อนๆ ที่เหมาะทั้งการบริโภค-ลงทุน
- ASW เคาะราคา IPO ที่หุ้นละ 9.82 บาท ขาย 19-21 เม.ย.
- หุ้น IPO คึกคัก สวนกระแสโควิด-19