GPSCชิงพลังงานทดแทน รอฟันกำไรเอฟทีงวดม.ค.

นางศิโรบล บุญถาวร ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสการเงินองค์กร บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ  GPSC เปิดเผยว่า ประเมินปี 2566 มีโอกาสที่ผลการดำเนินงานจะทำได้ดีกว่าปีนี้ จากการปรับขึ้นค่า Ft คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) งวดเดือนมกราคม ถึง เดือนเมษายน  2566 ทั้งนี้ทุกๆ ค่า Ft ที่สูงกว่าคาด 1 สตางค์ต่อหน่วย จะเพิ่ม Net Income ราว 60 ล้านบาท ดังนั้นจะเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการต่อไป

@ประมูลพลังงานทดแทน

ทั้งนี้ ณ ไตรมาส 3/2565 บริษัทมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 6,357 เมกะวัตต์ เป็นสัดส่วนพลังงานทดแทน 34% โดยปีเป้าหมาย ปี 2025 หรือปี 2568  จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 7,236 เมกะวัตต์ จะเป็นสัดส่วนพลังงานทดแทนที่ 38%

โดยบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการยื่นประมูลโครงการพลังงานทดแทนหลังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ออกระเบียบว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับพลังงานสะอาด 5,203 เมกะวัตต์ โดยจะมีการยืนยันการยื่นคำเสนอขายไฟฟ้า พร้อมเอกสารหลักฐานแสดงคุณสมบัติ และข้อมูลความพร้อมทางด้านเทคนิค ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ตามแผนที่จะต้องและยอมรับเงื่อนไขการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในวันที่ 29 มีนาคม 2566

พร้อมกันนี้ยังเดินหน้าก่อสร้างโครงการตามแผน โดยในส่วนของ โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวัน Changfang และ Xidao (CFXD) กำลังการผลิต ราว 600 เมกะวัตต์ โครงการมีความคืบหน้าด้านการก่อสร้างโดยรวมประมาณ 49.60% ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งกังหันลมและดำเนินการติดตั้งจำนวน 5 ตัว ทั้งนี้ ทุกโครงการมีแผนจะเปิดดำเนินการภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 นอกจากนี้ยังมีโครงการ GLOW SPP2 Replacement | Glow SPP2 ปัจจุบันโครงการได้รับใบอนุญาตก่อสร้าง และอยู่ระหว่างงานก่อสร้าง การลงเสาเข็มของหน่วยที่ 1, หน่วยที่ 2 และเริ่มก่อสร้างฐานคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยมีความคืบหน้าด้านการก่อสร้างโดยรวมประมาณ 19.99%

ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในอินเดีย Avaada Energy Private Limited (AEPL) ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว (จำนวน 27 โครงการ) 3,681 เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างในการพัฒนาจำนวน 8 โครงการกำลุงการผลิต 953 เมกะวัตต์  มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตให้เป็น 11 กิกะวัตต์ ในปี 2568 เป็นตัน

ขณะที่การเดินหน้าบริษัท นูออโว พลัส จํากัด (NUOVO PLUS ) ร่วมกับ PTT ศึกษาความเป็นไปได้ และสนับสนุน การลงทุนในห่วงโซ่ธุรกิจแบตเตอรี (Battery Value Chain) รองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งก็เชื่อว่าในส่วนของความต้องการยานยนต์ไฟฟ้าจะเห็นการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทก็เตรียมความพร้อมรองรับในการขยายธุรกิจ นอกจากนี้ได้เข้าลงทุนใน เข้าลงทุนในบริษัท Anhui Axxiva New Energy Technology Co., Ltd. ประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงงานผลิตแบตเตอรี ทั้งนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพของการแข่งขัน รวมถึงผลักดันให้บริษัทสามารถดำเนินการธุรกิจผลิตแบตเตอรีให้ประสบความสำเร็จต่อไป

ทั้งนี้บริษัท มุ่งตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและกลยุทธ์ความยั่งยืน โดยวางเป้าหมายที่จะก้าวสู่องค์กรความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปีค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero GHG Emissions) ในปี ค.ศ. 2060

*กำไร Q4/65 ดีขึ้น

ทั้งนี้บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุถึง GPSC ทิศทางกำไรดีขึ้นใน ไตรมาส 4/2565 ไม่มี Fx Loss มาฉุด และอัตรากำไรขายไฟฟ้าลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) ฟื้นตัว มีกำไรขั้นต้นดีขึ้นจากการปรับขึ้นค่า Ft เต็มไตรมาส เพียงพอชดเชยส่วนแบ่งกำไร ที่ลดลงตามกำไรของโรงไฟฟ้าไซยะบุรีที่เริ่มเข้าสู่ช่วง Low Season  คงคำแนะนำซื้อที่ 84.00 บาทต่อหุ้น

สามารถซื้อลงทุนรับการฟื้นตัวของกำไรปกติ ในไตรมาส 4/2565-ปี 2566 จาก 1. การปรับขึ้นค่า Ft ที่เร่งตัว เข้ามาชดเชยต้นทุนก๊าซและถ่านหินที่เพิ่มขึ้น และรับรู้เต็มปีใน 2566 2. ค่าใช้จ่ายปิดซ่อมนอกแผนลดลง และกำลังการผลิตใหม่ ของ AEPL ทยอย COD ราว 497 MWe (+8%) ค่าใช้จ่ายในการ Refinance ลดลง และแบกรับค่าใช้จ่ายคงที่ลดลง ทั้งนี้ทุกๆ ค่าFt ที่สูงกว่าคาด 1 สตางค์ต่อหน่วย จะเป็น Upside ต่อประมาณการกำไรปกติ 2566 ราว 60 ล้านบาท หรือ +1%