นโยบายทรัมป์หนุนหุ้นสหรัฐ แบงก์ทิสโก้โฟกัส3กองทุนเด่น
![นโยบายทรัมป์หนุนหุ้นสหรัฐ แบงก์ทิสโก้โฟกัส3กองทุนเด่น](https://cms.dmpcdn.com/contentowner/2020/08/18/15980f10-e133-11ea-8e82-0b494f6be91c_original.jpg)
#ทิสโก้#ทันหุ้น - ธนาคารทิสโก้คาด หุ้นสหรัฐ จะสร้างผลตอบแทนโดดเด่นในปี 2568 หลังทรัมป์เดินหน้านโยบายตามที่หาเสียงไว้ หนุนกำไรบริษัทจดทะเบียนพุ่ง 14%YoY แนะควรเลือกกองทุนหุ้นสหรัฐ ที่มีนโยบายการลงทุน “เชิงรุก” เพราะไม่ใช่ทุกอุตสาหกรรมจะเติบโตดี เปิดชื่อ 3 กองทุนเด่น UUSA, ES-USBLUECHIP และ TUSFIN-A
นางวรสินี เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุน และสื่อสารการตลาด สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ธนาคารทิสโก้ประเมินว่าปี 2568 ตลาดหุ้นสหรัฐ มีโอกาสสร้างผลตอบแทนโดดเด่น หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ออกคำสั่งประธานาธิบดีหลายฉบับที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจในประเทศสหรัฐ ตามที่หาเสียงไว้ ทำให้นักวิเคราะห์จาก Bloomberg คาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนสหรัฐ (S&P500 Index) ปี 2568 เติบโตสูงถึง 14% YoY ดีกว่าตลาดหุ้นโลก (MSCI ACWI) ที่กำไรบริษัทจดทะเบียนโต 8%YoY
*ชอบหุ้นกลุ่มการเงินสหรัฐ
นอกจากนี้ หากลงลึกรายกลุ่มอุตสาหกรรมธนาคารทิสโก้มองว่าหุ้นกลุ่มการเงินสหรัฐ เป็นกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอย่างมาก เพราะได้รับประโยชน์จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่กว้างขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในช่วงขาลง รวมถึงนโยบาย Financial Deregulation จะช่วยผ่อนคลายกฎเกณฑ์ในการดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงิน ทำให้สามารถขยายธุรกิจได้มากขึ้น ดังนั้น ธีมลงทุนที่ธนาคารทิสโก้แนะนำเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากนโยบายทรัมป์ คือ กองทุนหุ้นสหรัฐ และกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในกลุ่มสถาบันการเงินสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐ ธนาคารทิสโก้แนะนำให้เลือกกองทุนที่มี นโยบายการลงทุนเชิงรุก มากกว่ากองทุนที่มีนโยบายการลงทุนตามดัชนี เพราะไม่ใช่ทุกอุตสาหกรรมในสหรัฐ จะเติบโตได้ดี อีกทั้งบางอุตสาหกรรมของสหรัฐ อาจได้รับผลกระทบทางอ้อมจากนโยบายของทรัมป์ นอกจากนี้ ปี 2568 เศรษฐกิจสหรัฐ มีโอกาสเติบโตในอัตราชะลอตัวเมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งกองทุนที่มีนโยบายเชิงรุกจะเปิดโอกาสให้ผู้จัดการกองทุนเฟ้นหาหุ้นผู้ชนะมา สร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากดัชนีให้กับพอร์ตการลงทุน
*คัด 3 กองทุนเด่น
จากปัจจัยดังกล่าวธนาคารทิสโก้ จึงคัดกองทุนเด่นให้ลูกค้าลงทุน 3 กองทุน คือกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ยูเอส โกรท ฟันด์ (UUSA), กองทุนเปิดอีสท์สปริง US Blue Chip Equity (ES-USBLUECHIP) และ กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียล (TUSFIN-A)
โดยกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ยูเอส โกรท ฟันด์ (UUSA),เน้นคัดเลือกลงทุนในหุ้นรายตัว และกระจายน้ำหนักการลงทุนที่เหมาะสม โดยใช้หลักการวิเคราะห์ด้านปัจจัยพื้นฐาน และการวิเคราะห์แบบ Bottom-up เพื่อเลือกหุ้นที่สนใจ โดยเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีความสามารถในการเติบโตของรายได้หรือกำไรสูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนจะพิจารณาภาพรวมอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจประกอบการลงทุนด้วย อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับปัจจัยด้าน ESG เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
กองทุนเปิดอีสท์สปริง US Blue Chip Equity (ES-USBLUECHIP) เน้นลงทุนในหุ้นสหรัฐ ที่มีมูลค่าตลาด (Market Cap) เป็นอันดับต้นๆ ของโลก เป็นบริษัทที่มีรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งมีงบการเงินที่ดีและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง มีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าพร้อมกับมีขีดความสามารถในการแข่งขัน จากการเป็น “เจ้าตลาด” หรือครองส่วนแบ่งการตลาดในระดับสูง
กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ไฟแนนเชียล (TUSFIN-A)เน้นลงทุนในกลุ่มสถาบันการเงินในสหรัฐฯ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มย่อย คือ 1. กลุ่มผู้ให้บริการด้านการเงิน เช่น Berkshire Hathaway และ PayPal 2. กลุ่มธนาคาร เช่น JPMorganChase และ Citigroup 3. กลุ่มธุรกิจประกัน เช่น Chubb และ4. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน เช่น Goldman Sachs และ Morgan Stanley ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากนโยบายของทรัมป์ ทั้งในเรื่องการปรับลดภาษีนิติบุคคล และการผ่อนปรนเงื่อนไขในการดำเนินธุรกิจ แถมได้รับผลกระทบในระดับจากสงครามการค้าอีกด้วย