รีเซต

"หัวเว่ย" เดินหน้าฟื้นห่วงโซ่อุปทาน หลังถูกแบนหนัก

"หัวเว่ย" เดินหน้าฟื้นห่วงโซ่อุปทาน หลังถูกแบนหนัก
TNN ช่อง16
23 กันยายน 2563 ( 14:17 )
170
"หัวเว่ย" เดินหน้าฟื้นห่วงโซ่อุปทาน หลังถูกแบนหนัก

วันนี้( 23 ก.ย.63) รอยเตอร์รายงานว่า นายเกา ปิง ประธานบริษัทหัวเว่ย เปิดเผยเมื่อวันพุธในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในงาน Huawei Connect ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในนครเซี่ยงไฮ้ โดยให้คำมั่นว่าบริษัทจะทำในทุกวิถีทางเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในห่วงโซอุปทานอีกครั้งหนึ่ง หลังจากถูกโจมตีอย่างหนักจนได้รับความเสียหายในช่วงก่อนหน้านี้

แม้ในคำแถลงของประธานหัวเว่ยจะไม่ได้พาดพิงถึงการถูกโจมตีดังกล่าว แต่คงหนีไม่พ้นหมายถึงรัฐบาลสหรัฐที่ก่อนหน้านี้ใช้หลายมาตรการกดดันหัวเว่ยอย่างหนัก โดยเฉพาะเรื่องการแบนชิปเซ็ตที่ห้ามไม่ให้บริษัทซัพพลายเออร์ของหัวเว่ย ส่งมอบสินค้าที่มีเทคโนโลยีของสหรัฐให้กับหัวเว่ยซึ่งมีผลไปเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้สร้างความเสียหายและความไม่แน่นอนในอนาคตสินค้าของหัวเว่ยอย่างมาก

นอกจากนี้นายเกา ยังเผยอย่างตรงไปตรงมาว่า หัวเว่ยมีชิปเซ็ตสำหรับอุปกรณ์สื่อสารทางธุรกิจโดยเฉพาะอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย5Gอย่างเพียงพอ แต่ส่วนชิปเซ็ตสำหรับสมาร์ทโฟนนั้นยังมีความไม่แน่นอน

อย่างไรก็ดีภายใต้ข้อจำกัดใหม่ของสหรัฐส่งผลให้บรรดาซัพพลายเออร์หลายรายต่างยื่นขออนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐให้สามารถส่งมอบสินค้าให้กับหัวเว่ยได้ตามเดิม โดยเมื่อวานนี้ (22 ก.ย.) บริษัทอินเทล ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ ถือเป็นบริษัทสหรัฐรายแรกที่รัฐบาลไฟเขียวให้สามารถจัดหาสินค้าให้กับหัวเว่ย 

ขณะที่บริษัท เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง อินเตอร์เนชันแนล คอร์ปอเรชัน (SMIC)ผู้ผลิตชิปสัญชาติจีน ซึ่งใช้เครื่องจักรในการผลิตที่มาจากสหรัฐฯก็ได้ยื่นของอนุญาตต่อทางการสหรัฐด้วยเช่นกันด้วยมาตรการกีดกันของสหรัฐดังกล่าว ที่สร้างผลกระทบต่อห่วงโซอุปทานของหัวเว่ยในหลายระดับ ส่งผลให้เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว หัวเว่ยได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการที่พัฒนาด้วยตัวเองที่มีชื่อว่า Harmony OS 2.0 ซึ่งหัวเว่ยตั้งเป้าเป็นระบบปฏิบัติการในสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยทุกรุ่นในปีหน้าแทนที่ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 




เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง