สุดสลด! แม่กระโดดช่วยลูก-หลาน กำลังจมสระ สุดท้ายช่วยได้แค่หลาน จมดับ 'แม่-ลูก'
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่จ.สุรินทร์ ร.ต.ท.ภาณุวัฒน์ ริมหมู่ดี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนจมน้ำเสียชีวิต 2 ราย ที่บ่อน้ำข้างหนองน้ำ ซึ่งกำลังมีการขุดลอกปรับปรุงภูมิทัศน์ บ้านโคกจ๊ะ หมู่ 8 ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ขอให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ หลังรับแจ้งจึงประสานแพทย์โรงพยาบาลสุรินทร์ และหน่วยกู้ภัยสุรินทร์ รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ่อน้ำ ข้างสระน้ำสาธารณประโยชน์หนองตาวิน บ้านโคกจ๊ะ กำลังมีการขุดลอก ปรับแต่งพื้นผิวภูมิทัศน์รอบสระน้ำ และมีการนำรถแบ๊กโฮมาขุดบ่อ ขนาดความยาว ประมาณ 3 เมตร กว้าง 1 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตรครึ่ง โดยมีชาวบ้านมายืนมุงดูเป็นจำนวนมาก
จากการสอบถามทราบว่า เวลาประมาณเที่ยง ได้มีด.ช.เอ็ม อายุ 10 ปี เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กับด.ช.โอม อายุ 8 ปี เรียน ป.2 โรงเรียนเดียวกัน พร้อมด้วย นางกาญจนา หรือ จ๊าบ อายุ 47 ปี ผู้เป็นแม่ได้พากันเดินทางมาที่สระน้ำดังกล่าว เพื่อมาดูคนงานที่กำลังมีการปรับเกลี่ยหน้าดิน ขณะที่ ด.ช.เอ็ม (ผู้เสียชีวิต) เห็นบ่อน้ำที่รถแบ็กโฮขุดไว้ และมีน้ำซึมออกมาจนเต็มบ่อ ด้วยความอยากรู้จึงกระโดดลงไปในบ่อน้ำ และพยายามจะปีนขึ้นจากบ่อ แต่ขึ้นไม่ได้ ด.ช.โอม (เสื้อม่วง) ที่ยืนดูอยู่เห็นท่าไม่ดี จึงเอามือยื่นไปให้ ด.ช.เอ็ม จับเพื่อจะช่วยดึงขึ้นมา แต่ดึงขึ้นไม่ได้ ก่อนถูกดึงตกลงไปในบ่อน้ำด้วยอีกคน ก่อนที่เด็กชายทั้ง 2 คน พยายามจะดิ้นรน เพื่อพยุงร่างกายขึ้นจากบ่อน้ำ แต่ก็ไม่สามารถขึ้นมาได้ ด้านนางจ๊าบ ผู้เป็นแม่ด.ช.เอ็ม เห็นเหตุการณ์ว่าลูกและหลานกำลังจะจมน้ำ จึงได้กระโดดลงไปในบ่อน้ำเพื่อช่วยเด็กทั้งสองคน ก่อนใช้มือดันร่าง ด.ช.โฮม ผู้เป็นหลาน อายุ 8 ปี ขึ้นจากน้ำได้อย่างรอดปลอดภัย จากนั้นก็พยายามจะช่วยลูกชาย แต่สุดท้ายกลับจมน้ำเสียชีวิตไปทั้งคู่
ด้านนายกุน มิตุตาวงค์ อายุ 68 ปี ชาวบ้านโคกจ๊ะ ผู้ที่ลงไปในบ่อนำร่าง 2 แม่ลูกขึ้นจากบ่อน้ำ เล่าว่า ช่วงเที่ยงเศษๆ ขณะที่กำลังหว่านแหอยู่ท้ายสระน้ำหนองตาวิน ซึ่งไม่ไกลจากบ่อน้ำมากนัก ได้ยินเสียงชาวบ้านที่มาหาปลาที่สระน้ำตาวินตะโกนว่า มีคนจมน้ำตาย 2 คน เป็นแม่ลูกกัน ขอให้ตนมาช่วยเอาร่างขึ้นจากบ่อด้วย จากนั้นตนได้วิ่งมาที่บ่อน้ำ ช่วงนั้นมีชาวบ้านหลายคน พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านก็มาด้วย ก่อนปรึกษากันว่า ทำอย่างไรจะช่วยเอาร่าง 2 แม่ลูกขึ้นจากบ่อน้ำก่อนให้เร็วที่สุด และขอให้ทุกคนที่มาที่เกิดเหตุเป็นพยานให้กับตนว่าตนไม่ได้ทำอะไรเสียหายแก่ 2 แม่ลูก ตนถึงกล้าที่จะลงน้ำงมเอาศพขึ้นมา
ทุกคนตกลงว่าเป็นพยานให้ตนจึงได้ลงไปเอาศพ 2 แม่ลูกขึ้นจากบ่อ ตนลงไปในบ่อ เจอศพ ผู้เป็นแม่ที่ยังลอยน้ำอยู่ เนื่องจากอาจเป็นที่เสื้อที่ผู้ตายใส่จึงทำให้พยุงตัวลอยอยู่ ส่วนลูกชายจมอยู่ใต้น้ำ ตนก็มุดน้ำลงไปงมศพขึ้นมา ชาวบ้านที่อยู่บนบ่อก็ช่วยนำร่างทั้งแม่และลูก มาวางไว้ริมขอบบ่อน้ำ ก่อนอาสากู้ภัยสุรินทร์ นำผ้าขาวมาคลุ่มร่างไว้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์มาชันสูตรพลิกศพ
ขณะที่นายวิทยา จิตเดียว พ่อน้องโอม บอกว่า ตอนที่ตกลงไป พี่คนที่เสียชีวิตได้ดันลูกตนขึ้นมาก่อน จากนั้นได้พยายามช่วยลูกชายที่กำลังจะจมน้ำ ก่อนที่ทั้งสองแม่และลูก จะจมน้ำดับทั้งคู่ ตนเสียใจและสงสารมาก
ด้านครูที่โรงเรียนราชวิถี ต.เฉนียง ที่น้องทั้งสองรียนอยู่ หลังทราบข่าวก็เดินทางมายังที่เกิดเหตุ ด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับลูกศิษย์และแม่ที่จมน้ำเสียชีวิตพร้อมกัน และบอกว่า เด็กชายทั้ง 2 คน ไม่ได้เดินทางไปเรียนเมื่อวานกับวันนี้ หลังจากกลับจากทางโรงเรียนพาไปทัศนศึกษา กลับมาก็ไม่ไปโรงเรียน พอทราบข่าวว่าด.ช.เอ็มน้ำเสียชีวิต พร้อมแม่ รู้สึกเสียใจมาก แต่ยังเคราะห์ดีที่น้องโอมรอดชีวิตมาได้
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นสุนัขเพศผู้สีน้ำตาล-ดำ ได้นั่งเฝ้าศพของ 2 แม่ลูกอยู่ไม่ห่าง บางครั้งนอนเฝ้า บางครั้งเดินรอบๆ วนไปวนมาข้างร่างของ 2 แม่ลูก จากการสอบถาม นายวิทยา จิตเดียว อายุ 44 ปี พ่อของด.ช.โอม ผู้รอดชีวิต บอกว่า สุนัขตัวนี้ อายุ ราว 7 ปี เป็นสุนัขตนซึ่งมันจะสนิทกับป้าจ๊าบมาก ป้าจ๊าบแกชอบไปกินข้าวที่บ้านตน สุนัขตัวนี้ก็มานั่งเล่นนั่งเฝ้าแก่ตลอดเวลา วันนี้มันก็ตาม โดยแกมาที่สระน้ำตาวิน ตั้งแต่ก่อนเที่ยง จนกระทั่งแกจมน้ำตาย มันก็ยังเฝ้าอยู่ตลอดเวลาด้วยความที่อาจจะสนิทคุ้นเคยกัน
ด้าน ร.ต.ท. ภาณุวัฒน์ ริมหมู่ดี พนักงานสอบสวนเวร ได้บันทึกภาพ รวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ในเบื้องต้น ก่อนจะให้อาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ นำศพร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ส่งพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตที่นิติเวช โรงพยาบาลสุรินทร์ ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุการตายจึงได้มอบศพให้ญาตินำประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป