รีเซต

จมน้ำ! กรมควบคุมโรค แนะวิธีช่วยชีวิต เพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้ถึง 2.19 เท่า

จมน้ำ! กรมควบคุมโรค แนะวิธีช่วยชีวิต เพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้ถึง 2.19 เท่า
TNN ช่อง16
6 พฤศจิกายน 2568 ( 14:39 )

นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากข้อมูลของกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2558 - 2567) ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำรวมทั้งสิ้น 36,870 คน เฉลี่ยวันละกว่า 10 คน

โดยเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 6,449 คน หรือเฉลี่ยวันละ 2 คน สำหรับในปี 2567 เพียงปีเดียว มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จมน้ำเสียชีวิตถึง 180 คน คิดเป็นร้อยละ 32.3 ของการจมน้ำเสียชีวิตในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดคิดเป็น 6.9 ต่อประชากรเด็กแสนคน สะท้อนให้เห็นว่าการจมน้ำยังคงเป็นปัญหาสำคัญด้านความปลอดภัยในเด็ก แม้จะเป็นเหตุที่สามารถป้องกันได้

ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้ถึง 2.19 เท่า  

ภายหลังการจมน้ำเพียง 2 นาที ผู้ประสบเหตุจะหมดสติ และเพียง 4 - 6 นาที สมองจะขาดออกซิเจนและถูกทำลายถาวร ส่งผลให้พิการหรือเสียชีวิตได้ ดังนั้น การช่วยเหลือตั้งแต่จุดเกิดเหตุจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากพบคนจมน้ำไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ให้รีบช่วยเหลือขึ้นมาจากน้ำและทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ด้วยการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) โดยทำการเป่าปากและกดนวดหัวใจ จะช่วยให้คนที่จมน้ำมีโอกาสรอดชีวิตเพิ่มมากกว่าคนที่ไม่ได้รับการ CPR ถึง 2.19 เท่า

ขั้นตอนการช่วยชีวิตผู้จมน้ำที่ถูกต้อง มีดังนี้ 

1) โทรศัพท์แจ้งสายด่วน 1669 หรือหน่วยพยาบาลใกล้เคียงโดยเร็วที่สุด 

2) จับคนจมน้ำนอนบนพื้นราบ แห้งและแข็ง 

3) ตรวจดูว่าคนจมน้ำรู้สึกตัวหรือไม่ หากรู้สึกตัวให้เช็ดตัวให้แห้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าและห่มผ้าเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และนำส่งโรงพยาบาล แต่หากหมดสติให้เริ่มทำ CPR โดยเริ่มจากการเป่าปาก 2 ครั้ง ตามด้วยการกดหน้าอก 30 ครั้ง (กรณีเป็นผู้ใหญ่กดให้หน้าอกยุบประมาณ 5 เซนติเมตร หากเป็นเด็กกดให้ยุบประมาณ 1 ใน 3 ของความหนาของหน้าอก) 

ความเร็วอย่างน้อย 100 - 120 ครั้งต่อนาที ทำสลับกันไปจนกว่าผู้ประสบเหตุจะรู้สึกตัวและหายใจได้เอง หรือจนกว่ารถทีมแพทย์กู้ชีพจะมาถึงและนำส่งโรงพยาบาลทุกรายแม้ว่าจะรู้สึกตัวดีแล้ว

นายแพทย์มณเฑียรย้ำว่า การช่วยชีวิตผู้ที่จมน้ำแตกต่างจากการทำ CPR ทั่วไปตรงที่ต้องเริ่มจากการเป่าปากก่อน เพื่อแก้ภาวะขาดอากาศหายใจ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตจากการจมน้ำ และไม่ควรเสียเวลากับการอุ้มพาดบ่าแล้วกระแทกหรือกดท้องเพื่อเอาน้ำออกจากท้อง เพราะอาจทำให้คนจมน้ำอาเจียนและสำลักน้ำส่งผลให้ขาดอากาศหายใจนานยิ่งขึ้น

 กรมควบคุมโรคขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นเหตุคนจมน้ำอย่าลังเลที่จะเข้าช่วยเหลือโดยการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและถูกวิธีจะช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของผู้ประสบเหตุได้อย่างมาก ทั้งนี้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง