เทคนิคตรวจสอบแอร์รถยนต์ ควรล้างเมื่อไหร่ ดูแลอย่างไรก่อนหน้าร้อน

25 มีนาคม 2568 ( 15:52 )
6
เมื่อเข้าใกล้หน้าร้อน โดยเฉพาะในเมืองไทยที่ปีก่อนอุณหภูมิขึ้นไปแตะ 40 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ อย่ารอให้ความร้อนทำให้ความสุนทรีย์ในการขับขี่ยานพาหนะของเราลดน้อยลง มาเตรียมพร้อมระบบปรับอากาศหรือแอร์ในรถของเรา ให้พร้อมสู้ลมฤดูร้อนในปี 2568 ว่าเราควรดูแลรักษา หรือวิธีใช้อย่างถูกวิธีกันจ้า
เทคนิคตรวจสอบแอร์รถยนต์ ควรล้างเมื่อไหร่
การดูแลแอร์รถยนต์
- เปลี่ยนกรองอากาศแอร์ : เราควรตรวจเช็คและทำความสะอาดกรองอากาศแอร์ตามระยะเวลาที่เหมาะสม หรือประมาณทุกๆ 2,000 - 5,000 กิโลเมตร และเมื่อกรองแอร์เก่า สภาพไม่พร้อมใช้แล้ว หรือมีอายุการใช้งานประมาณ 20,000 กิโลเมตรแล้ว ก็ควรเปลี่ยนใหม่ เพื่อยืดอายุการใช้งานของระบบแอร์และเพื่ออากาศสะอาดภายในรถ
- เติมน้ำยาแอร์ : เติมน้ำยาแอร์ให้อยู่ในระดับที่กำหนด ซึ่งการเติมน้ำยาควรทำโดยช่างผู้ชำนาญ เพื่อป้องกันการเติมน้ำยาแอร์มากหรือน้อยเกินไป
- ตรวจเช็กสายพานคอมเพรสเซอร์แอร์ : ตรวจเช็กสายพานคอมเพรสเซอร์แอร์ว่าแตก หัก หรือฉีกขาดหรือไม่
- ล้างตู้แอร์ : หากรถมีกรองแอร์ อาจไม่จำเป็นต้องล้างบ่อยๆ เลย แต่หากรู้สึกว่าแอร์มีกลิ่น หรือใช้พวกน้ำหอมในรถนานๆ เข้า อาจมีการอุดตันภายใน ดังนั้นจึงค่อยล้าง หรือควรล้างตามที่ช่างแนะนำ
- แอร์มีเสียงผิดปกติ : หากมีเสียงดังผิดปกติในระบบแอร์หรือเครื่องปรับอากาศ ควรปิดแอร์ทันทีเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับคอมเพรสเซอร์แอร์ได้ แล้วควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด
การดูแลรักษาในส่วนอื่นๆ
- ก่อนสตาร์ทรถ : ถ้าเป็นไปได้ ก่อนสตาร์ทรถควรปิดแอร์ก่อน เพื่อไม่ให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานหนักขณะสตาร์ท
- ระบายความร้อนก่อนเปิดแอร์ : หากรถจอดตากแดดนานๆ ควรเปิดประตูหรือกระจกเพื่อระบายความร้อนก่อนเปิดแอร์ จะทำให้แอร์ทำงานไม่หนักมาก
- ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม: ไม่ควรตั้งอุณหภูมิแอร์ให้เย็นจัดเกินไป เพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก
- ปิด A/C ก่อนถึงจุดหมาย: ปิด A/C ก่อนถึงจุดหมายประมาณ 2-3 นาที เพื่อไล่ความชื้นออกจากตู้แอร์
- ดูดฝุ่นภายในรถ: ดูดฝุ่นภายในรถเป็นประจำ เพื่อลดฝุ่นละอองในระบบเครื่องปรับอากาศ
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอมหรือสารเคมีรุนแรง: การใช้น้ำหอมหรือสารเคมีรุนแรงในรถอาจทำให้ตู้แอร์อุดตันหรือเสียหายได้
อย่างไรก็ตาม หากแอร์มีปัญหา เช่น ไม่เย็น มีเสียงดัง หรือมีกลิ่นเหม็น ควรนำรถไปให้ช่างผู้ชำนาญตรวจสอบและแก้ไข เท่านี้ก็เชื่อว่าแอร์รถยนต์ของเราก็จะใช้งานได้อย่างยาวนาน ไม่มีปัญหากวนใจก่อนเวลาอันควรแน่นอน
Photo Credit : AI Generated