เนปาลนำร่องระบบ AI พยากรณ์ดินถล่ม ลดความเสี่ยงภัยพิบัติ

เนปาลทดลองใช้ระบบเตือนภัยดินถล่มที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ใช้ข้อมูลปริมาณน้ำฝน การเคลื่อนตัวของพื้นดิน ร่วมกับการสังเกตการณ์ในท้องถิ่น และข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียม เพื่อช่วยคาดการณ์การเกิดดินถล่มล่วงหน้าได้หลายสัปดาห์
"เนปาล" กับการเกิดแผ่นดินถล่ม
ทุกปีในช่วงฤดูมรสุม อุทกภัยและดินถล่ม สร้างความเสียหายอย่างหนักทั่วทั้งเอเชียใต้และคร่าชีวิตผู้คนไปหลายร้อยคน โดยเฉพาะ “เนปาล” ที่มีความเสี่ยงเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพธรณีวิทยาที่ไม่มั่นคง รูปแบบปริมาณน้ำฝนที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขา โดยข้อมูลระบุว่าปีที่ผ่านมาดินถล่มคร่าชีวิตผู้คนในเนปาลไปมากกว่า 300 คน และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับฤดูมรสุมถึงร้อยละ 70
แพลตฟอร์มช่วยแจ้งเตือนดินถล่ม
สำหรับแพลตฟอร์มพยากรณ์ดินถล่มนี้มีชื่อว่า SAFE-RISCCS ซึ่งพัฒนาโดยทีมจากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น (University of Melbourne) ในประเทศออสเตรเลีย ร่วมกับพันธมิตรในเนปาล สหราชอาณาจักร และอิตาลี
ทีมผู้พัฒนาระบุว่าระบบนี้เป็นโซลูชันที่มีต้นทุนต่ำแต่ให้ประสิทธิภาพสูง เนื่องจากใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ที่ขับเคลื่อนโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน เช่น การขอข้อมูลภาพถ่ายจากเครื่องวัดปริมาณน้ำฝนที่หน้าบ้าน เพื่อนำมาวิเคราะห์
การใช้งานในปัจจุบัน
ปัจจุบัน ระบบนี้กำลังนำร่องใช้ในพื้นที่เสี่ยงสูงสองแห่งในเนปาล โดยข้อมูลที่ได้จากเครื่องวัดปริมาณน้ำฝนของคนในท้องถิ่นจะถูกส่งให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับค่าความเสี่ยงที่อาจบ่งชี้ถึงการเกิดดินถล่ม
แม้ว่าโครงการนี้จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ทีมพัฒนาเชื่อว่าเมื่อมีชุดข้อมูลที่เพียงพอ AI จะสามารถสร้างกราฟและแจ้งเตือนตามการคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนโดยอัตโนมัติ จากนั้นก็จะแจ้งเตือนให้ชุมชนทราบ และในระยะยาวจะสามารถแสดงแผนที่ความเสี่ยงดินถล่มที่อัปเดตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้สามารถดำเนินการป้องกันและวางแผนการอพยพได้อย่างทันท่วงที