เปิดตำราแพ่ง สัญญากู้ยืมเงิน มีผลผูกพันทางกฎหมายแค่ไหน?
ข้อพิพาทหนี้สิน - ความสำคัญของสัญญากู้ยืมและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ดราม่าล่าสุดที่สั่นสะเทือนวงการบันเทิงไทย เมื่อ "ลูกหมี-รัศมี ทองสิริไพรศรี" นางแบบชื่อดังยุค 90 ออกมาแฉว่าถูกอดีตนางงามชื่อดังที่มีอักษรย่อว่า "ป." ยืมเงินจำนวน 2 ล้านบาทไปแล้วไม่ยอมคืน พร้อมทั้งจ่ายเช็คเด้งอีกด้วย เรื่องราวนี้ได้ลุกลามบานปลายกลายเป็นข้อพิพาททางกฎหมาย โดย "ลูกหมี" ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ "ป." ไว้แล้ว ขณะที่อีกฝ่ายอย่าง "ปู มัณฑนา" และสามี "หาญส์" ซึ่งมีข่าวว่าเป็นบุคคลเดียวกับ "ป." ก็เตรียมออกมาชี้แจงและดำเนินคดีกลับ ทั้งในประเด็นที่มาของมูลหนี้และการเรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมาย
เหตุการณ์นี้จึงจุดประเด็นให้หลายคนสนใจเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินและการทำสัญญา รวมถึงบทลงโทษหากมีการกระทำผิด ซึ่งเป็นความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อทุกคน ไม่ใช่แค่เฉพาะคนในวงการบันเทิงเท่านั้น
ผลผูกพันทางกฎหมายของสัญญากู้ยืมเงิน
สัญญากู้ยืมเงินถือเป็นเอกสารสำคัญที่แสดงถึงข้อตกลงระหว่างผู้ให้กู้และผู้กู้ โดยระบุรายละเอียดของจำนวนเงินกู้ อัตราดอกเบี้ย กำหนดชำระคืน และเงื่อนไขอื่นๆ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 หากมีการจัดทำสัญญาอย่างถูกต้อง และมีหลักฐานการส่งมอบเงิน สัญญากู้ยืมจะมีผลผูกพันตามกฎหมาย ผู้ให้กู้สามารถใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องร้องบังคับคดีได้ หากผู้กู้ผิดสัญญาไม่ชำระหนี้ตามกำหนด
ความผิดฐานจ่ายเช็คเด้ง
นอกจากผิดสัญญาแล้ว การจ่ายเช็คเด้งยังอาจเข้าข่ายความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังเปิดช่องให้ผู้เสียหายฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้อีกด้วย
การเรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด
อีกหนึ่งประเด็นที่มักพบในข้อพิพาทเรื่องหนี้สิน คือการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 หากเรียกดอกเบี้ยเกิน 15% ต่อปี ถือเป็นความผิดมีโทษทั้งจำคุกและปรับ โดยผู้ให้กู้อาจถูกจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
บทสรุปและข้อควรระวัง
ประเด็นข้อพิพาทระหว่าง "ลูกหมี" และ "ปู" ในครั้งนี้ จึงเป็นกรณีศึกษาให้เห็นถึงความสำคัญของการทำสัญญากู้ยืมเงินอย่างรัดกุม และรอบคอบ เพื่อป้องกันข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง การมีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรที่ถูกต้อง จะเป็นเกราะป้องกันทางกฎหมายที่ดีที่สุด ทั้งยังเป็นบทเรียนเตือนใจว่า แม้ความสัมพันธ์ส่วนตัวจะดูดี แต่เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนของกฎหมายแล้ว อะไรที่ไม่มีหลักฐานชัดเจน ก็อาจกลายเป็นชนวนความขัดแย้งได้ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม บทความนี้มีเพียงจุดประสงค์ในการให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อให้ได้คำปรึกษาที่ถูกต้องและเหมาะสมกับแต่ละกรณี
ภาพ Getty Images