รีเซต

นักเศรษฐศาสตร์โลกเตือน ลงทุนด้านภูมิอากาศคือทางรอด ยุคนี้ไม่มีที่ยืนให้พลังงานฟอสซิลอีกต่อไป

นักเศรษฐศาสตร์โลกเตือน ลงทุนด้านภูมิอากาศคือทางรอด ยุคนี้ไม่มีที่ยืนให้พลังงานฟอสซิลอีกต่อไป
TNN ช่อง16
15 ตุลาคม 2568 ( 10:30 )
20

การลงทุนเพื่อแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศไม่เพียงเป็นการปกป้องโลก แต่ยังเป็น “เรื่องราวการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของศตวรรษที่ 21” ขณะที่การเติบโตที่ยังพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลกลับเป็นหนทางสู่ “การทำลายตนเองทางเศรษฐกิจ” นี่คือข้อสรุปจากลอร์ด นิโคลัส สเทิร์น (Lord Nicholas Stern) นักเศรษฐศาสตร์ระดับแนวหน้าจากมหาวิทยาลัยลอนดอนสกูลออฟอีโคโนมิกส์ (LSE) ผู้เขียนรายงานด้านเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อมที่โด่งดังที่สุดในโลก


สเทิร์นระบุว่า ต้นทุนของเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เช่น พลังงานหมุนเวียน รถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และระบบทำความร้อนพลังงานสะอาด ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังช่วยสร้างสังคมที่สุขภาพดีขึ้น มีประสิทธิภาพในการผลิตมากขึ้น และสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนหลายล้านคนให้พ้นจากความยากจน


เขาชี้ว่า หากนานาประเทศปรับเปลี่ยนนโยบายและเพิ่มระดับการลงทุนอย่างจริงจัง การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำจะไม่เพียงแก้ปัญหาโลกร้อน แต่ยังช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน


“เศรษฐกิจที่พึ่งพาคาร์บอนสูงคือเศรษฐกิจที่ทำลายตัวเอง แต่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำคืออนาคตเดียวที่เติบโตได้อย่างยั่งยืน” สเทิร์นกล่าวในโอกาสเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ The Growth Story of the 21st Century: The Economics and Opportunity of Climate Action ซึ่งจะวางจำหน่ายในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

สเทิร์นเคยเผยแพร่ “รายงานสเทิร์น” เมื่อปี พ.ศ. 2549 ซึ่งถือเป็นงานศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อมที่ทรงอิทธิพลที่สุด โดยชี้ว่า การลงมือแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าความเสียหายที่เกิดจากการเพิกเฉยหลายเท่าตัว และเตือนว่า “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือความล้มเหลวทางกลไกตลาดครั้งใหญ่ที่สุดของโลก”


เกือบ 20 ปีให้หลัง สเทิร์นย้ำว่า ข้อสรุปเดิมของเขายังคงถูกต้อง แต่สถานการณ์กลับเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม “ทุกครั้งที่เราทบทวนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ มันยิ่งน่ากังวลกว่าเดิม” เขากล่าว พร้อมระบุว่า “จุดเปลี่ยนของภูมิอากาศ (climate tipping points) ที่เคยคาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น 4 องศาเซลเซียส ตอนนี้มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นแม้โลกร้อนเพียง 2 องศาเท่านั้น”


เขายกตัวอย่างว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาว่า พลังงานแสงอาทิตย์และแบตเตอรี่มีต้นทุนลดลงกว่า 80% พลังงานลมชายฝั่งลดลง 73% พลังงานลมบนบกลดลง 57% ซึ่งการผลิตพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีสะอาดในระดับอุตสาหกรรมช่วยลดต้นทุนลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันมลพิษจากเชื้อเพลิงฟอสซิลที่คร่าชีวิตผู้คนหลายล้านคนต่อปีจะค่อย ๆ ลดลง ส่งผลให้ประชากรมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน


“นี่คือโอกาสมหาศาล เมืองที่อากาศสะอาดและระบบขนส่งที่ยั่งยืน จะทำให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเศรษฐกิจเติบโตได้เร็วขึ้น โลกต้องการการเติบโตอย่างเร่งด่วน และหนทางเดียวคือเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ” สเทิร์นกล่าว

สเทิร์นยังส่งสารถึงผู้นำการเมืองที่ปฏิเสธปัญหาโลกร้อน โดยเฉพาะอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเพิ่งเรียกวิกฤติภูมิอากาศว่า “เรื่องหลอกลวง” และสนับสนุนอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมัน “อยากให้เขาคิดถึงลูกและหลานของตัวเอง คิดถึงความเสี่ยงทางวิทยาศาสตร์ และดูตัวอย่างจากไฟป่าที่แคลิฟอร์เนีย หรือบ้านพักของเขาในฟลอริดาที่กำลังเผชิญพายุเฮอริเคนรุนแรงและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น สถานที่ที่เขารักกำลังตกอยู่ในอันตราย” เขากล่าว


สเทิร์นยังชี้ให้เห็นว่า พลังงานแสงอาทิตย์ในปัจจุบันสามารถผลิตไฟฟ้าได้ถูกกว่าถ่านหินและน้ำมันในหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมถึงรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ “เทคโนโลยีสะอาดในศตวรรษที่ 21 ดีกว่าและถูกกว่าพลังงานจากศตวรรษที่ 19 และ 20”


ในสหราชอาณาจักร รายงานของสำนักงานงบประมาณ (Office for Budget Responsibility) เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2568 ระบุว่า ต้นทุนของการบรรลุเป้าหมายปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 มีมูลค่าต่ำกว่าความเสียหายจากการไม่ดำเนินการอย่างมาก และราคาพลังงานหมุนเวียนที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดมีต้นทุนถูกกว่าที่เคยประเมินไว้หลายเท่า


นอกจากนี้ ผลการวิเคราะห์เมื่อต้นปีชี้ว่า ภาคเศรษฐกิจ Net Zero ของสหราชอาณาจักรกำลังเติบโตเร็วกว่าเศรษฐกิจโดยรวมถึง 3 เท่า สะท้อนให้เห็นว่า การลงทุนด้านภูมิอากาศคือ “โอกาสเติบโตใหม่” ที่แท้จริง สเทิร์นกล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมยังคงมองโลกในแง่ดีต่อสิ่งที่เราทำได้ แต่กังวลอย่างมากกับสิ่งที่เราจะทำจริง ๆ หากเรายอมแพ้ต่อการเมืองและไม่ฟังเหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์ โลกก็จะเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากกว่าที่เคย”

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง