CBG เป้าปีฉลูโตขั้นต่ำ20% ตปท.แรงขยายเวียดนาม
ทันหุ้น-CBG ปักธงยอดขายปีหน้าโต ไม่ต่ำกว่า20% มองตลาดตปท.โตเกิน 25% เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ดันยอด พร้อมลุยขยายตลาดเวียดนาม มองโอกาสโตสูง ตั้งงบลงทุน 300 ล้านบาทปรับปรุงประสิทธิภาพ เพิ่มมาร์จิ้น ส่วนปลายปีคาดโรงงานบรรจุภัณฑ์แล้วเสร็จ หนุนต้นทุนลดโบรกเคาะราคาเป้าหมาย 170 บาท
นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมยอดขายปี 2564 บริษัทอยู่ระหว่างจัดทำแผนธุรกิจ แต่คาดว่าจะยอดขายในประเทศจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ขณะที่ตลาดต่างประเทศจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 25% โดยกลยุทธ์ของบริษัทจะเน้นในเรื่องของช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในส่วนของพื้นที่และช่องทางการขาย สำหรับพื้นที่การขายนั้นบริษัทมีแผนรุกตลาดใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ส่วนช่องทางการขายจะเน้นช่องทางการขายโมเดิรน์เทรดมากขึ้น รวมไปถึงการมุ่งที่จะสร้างแบรนด์ของบริษัทให้เป็นแบรนด์ที่ติดระดับโลก ซึ่งเป็นเป้าหมาของผู้บริหาร
@ เตรียมออกสินค้าใหม่
อย่างไรก็ดีปีหน้าบริษัทวางแผนที่จะออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง รวมไปถึงการออกสินค้า ภายใต้แบรนด์วู้ดดี้ ซี+ ล็อค แต่จะเป็นกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวกับความสวยความงาม ส่วนแบรนด์วู้ดดี้ ซี+ ล็อค ที่ผ่านมายอดขายอาจจะไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้เนื่องจากบริษัทมีการขยายช่องทางโมเดิรน์เทรดช้ากว่ากำหนด
แต่เชื่อว่าปีหน้ายังจะทำยอดขายได้ดีต่อเนื่อง เพราะสินค้าแบนด์วู้ดดี้ ซี+ ล็อค เป็นการจับตลาดคนละกลุ่มกับสินค้าเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง ส่วนแผนการรุกตลาดต่างประเทศ ปีหน้าบริษัทจะมุ่งเน้นการขยายตลาดในเวียดนามซึ่งคาดว่ายังมีโอกาสการเติบโตอีกมาก และบริษัทมีความพร้อมและมีศักยภาพในการลงทุน
ขณะที่ตลาดจีนก็มียอดขายที่ดีขึ้นต่อเนื่อง เชื่อว่าหากสามารถทำยอดขายได้ปีละ ได้ราวปีละ 300 ล้านยูนิต เช่นเดียวกันเมียนมาร์ที่มียอดขายกว่า 300 ล้านยูนิต เติบโตกว่า 50% จะหนุนให้ผลประกอบการวิ่งติดลมบน ส่วนในประเทศอังกฤษบริษัทเชื่อว่าจะเห็นผลประกอบการที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ด้านงบลงทุนปีหน้าอยู่ประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่บริษัทจะใช้สำหรับในการซ่อมบำรุงและดูแลเครื่องจักร โดยบริษัทยังไม่มีแผนการลงทุนในช่วงนี้ เนื่องจากมีการลงทุนใหญ่ในช่วงที่ผ่านมาหมดแล้ว
@ เพิ่มกำลังผลิต
พร้อมกันนี้ในปีหน้าบริษัทจะมีกำลังการผลิตใหม่ของโรงงานขวดแก้วเพิ่มอีก 300 ล้านขวดต่อปี และกำลังการผลิตกระป๋องเพิ่มอีก 300 ล้านกระป๋องต่อปี โดยเครื่องจักรคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จช่วงเดือน มกราคม 2564 นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงาน APM เกี่ยวกับกลุ่ม Packaging ทั้งในส่วนของ กล่อง Lable รวมไปถึง ฟิล์มหด (Shrink Film) คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนธันวาคมปีนี้ มูลค่าการลงทุนกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน สามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างโอกาสขยายธุรกิจต่อเนื่องได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันมาร์จิ้นของบริษัท นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการเรื่องของโครงการโซลาร์รูฟท็อป ขนาด 5 เมกะวัตต์ ที่เป็นอีกปัจจัยในการช่วยลดต้นทุน
@มีโอกาสเติบโตสูง
บริษัท หลักทรัพย์เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง CBG ยังคงแนะนำ “ซื้อ” และคงราคาเป้าหมาย 170.00 บาท อิง 2564 โดย CBG รายงานกำไรสุทธิ ไตรมาส 3/2563 ที่ 970 ล้านบาท (เติบโต 32%จากช่วงเดียวกันปีก่อน , เติบโต 17%จากไตรมาสก่อนหน้า)สูงสุดเป็นประวัติการณ์ สูงกว่าตลาดและฝ่ายวิจัยคาด 8% จาก GPM ที่ดีกว่าคาด และSG&A ที่ต่ำกว่าคาด กำไรที่ขยายตัวโดดเด่น เติบโต 32% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หนุนโดย รายได้รวม 4.4 พันล้านบาท (เติบโต 14% จากช่วงเดียวกันปีก่อน) จากรายได้จากต่างประเทศยังขยายตัวต่อเนื่องที่ เติบโต 15%จากช่วงเดียวกันปีก่อน และรายได้ distribution for 3rd party ทำสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 9ช่วยชดเชยรายได้ domestic branded own ที่ปรับตัวลดลง 1.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ gross profit margin ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ 41.6%จาก utilization rate ของโรงงานปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ผลประกอบการ 9เดือนปี 2563 มีสัดส่วนที่ 73%ของประมาณการปี 2563 โมเมนตัมกำไร ไตรมาส 4/2563 คาดเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า จาก high season เบื้องต้น คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ที่ 3,545 ล้านบาท เติบโต 41% และปี 2564 ที่ 4,459 ล้านบาท เติบโต 26% อีกทั้ง CBG ยังมี Upside จาก Woody C+Lock ทั้งในไทยและต่างประเทศและรายได้จากต่างประเทศขยายตัวมากกว่าคาด