ข้าวของแพง ร้านอาหารตามสั่งขึ้น 5-10 บาท วอนรัฐบาลควบคุมราคา
ข้าวของแพง ร้านอาหารตามสั่งขึ้น 5-10 บาท วอนรัฐบาลควบคุมราคา
วันที่ 20 มิ.ย. 65 ที่จังหวัดนครพนม ร้านอาหารตามสั่ง ปรับขึ้นราคาอาหารตามสั่งเฉลี่ยจานละ 5 – 10 บาท หลังแบกรับภาระต้นทุนวัตถุดิบ ทั้งเนื้อสัตว์ ผัก พริก เครื่องปรุงรส น้ำมันพืช และก๊าซหุงต้ม ที่มีการปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องไม่ไหว
ซึ่งปัจจุบันต้นทุนในการประกอบอาหารจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากเดิมถึงร้อยละ 20 โดยเฉลี่ยก่อนหน้านี้ต้องจ่ายค่าวัตถุดิบวันละประมาณ 1,500 – 2,000 บาท แต่หลังจากวัตถุปรับขึ้นแทบทุกอย่างก็ทำให้ต้องควักต้นทุนสูงขึ้นเป็นวันละกว่า 3,000 บาท แต่ยอดขายกลับลดลงจากที่เคยขายได้วันละ 4,000 – 5,000 บาท ปัจจุบันเหลือวันละ 1,500 – 2,000 บาทเท่านั้น
ขณะที่ต้นทุนกลับสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องทยอยปรับขึ้นค่าอาหารตามสั่งจากเดิมจานละ 35-40 บาท ปรับเป็นจานละ 40 – 50 บาทตามภาวะข้าวของราคาแพง และหากข้าวของราคาแพงขึ้นกว่านี้ก็ต้องปรับขึ้นตามสถานการณ์เพื่อความอยู่รอด แต่หากเป็นไปได้ก็อยากให้รัฐบาลเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาของแพง หรือควบคุมไม่ให้สูงไปกว่านี้อีก
นางสังวาลย์ สุธรรม อายุ 42 ปี แม่ค้าอาหารตามสั่ง ในเขตเทศบาลตำบลศรีสงคราม อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ยอมรับว่า ตอนนี้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าอาหารตามสั่งต่างได้รับผลกระทบจากภาวะข้าวของราคาแพงกันทั่วหน้า ทั้งวัตถุดิบจำพวกเนื้อสัตว์ ผัก พริก เครื่องปรุงรส และก๊าซหุงต้ม ได้ปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะน้ำมันพืช จากปกติแพงสุด 35 ขึ้นมาเป็น 70 บาท พริกสด เมื่อ 3-4 วันก่อน กิโลกรัมละ 60 บาท ปรับขึ้นมาเป็น 160 บาท ส่งผลให้ต้นทุนในการประกอบอาหารตามสั่งจำหน่ายเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเฉลี่ยร้อยละ 20 ขณะที่ยอดขายกลับลดลง จึงจำเป็นต้องทยอยปรับขึ้นราคาอาหารตามสั่งอีกจานละ 5 – 10 บาท เพื่อความอยู่รอด ซึ่งลูกค้าก็เข้าใจ เช่น เมนูหมูกรอบ อาหารทะเล ปรับขึ้นเมนูละ 10 บาท จาก 40 บาท ขึ้น เป็น 50 บาท ไข่ดาว ปกติ 5 บาท ปรับเป็น 10 บาท
แต่บางเมนูที่ต้นทุนไม่สูงมากนัก เช่น ประเภทไก่ ก็ยังขายราคาเดิม เพราะไม่อยากให้กระทบลูกค้าเหมือนกัน จากผลกระทบดังกล่าวก็อยากให้รัฐบาลได้เข้ามาแก้ปัญหาราคาข้าวของแพง หรือควบคุมราคาไม่สูงไปกว่านี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทั้งพ่อค้าแม่ค้าและผู้บริโภคด้วย