XO ปีเสือนิวไฮต่อ ขยายโรงงานที่4
#XO #ทันหุ้น - XO ชูเป้ารายได้ปีนี้ทำนิวไฮต่อจากปีก่อน หลังออเดอร์กลับมาฟื้นตัว ดีมานด์ในตลาดโลกโต ระบุยังคงบริหารจัดการได้ดี พร้อมล็อกต้นทุนวัตถุดิบ ล่าสุดควักงบลงทุนซื้อที่ดิน 40 ไร่ ขยายโรงงานใหม่แห่งที่ 4 ลุยขายซอสทั่วโลก ฟากโบรกแนะ “ซื้อ” เคาะเป้าหมาย 26.50 บาท
นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO เปิดเผยว่า ภาพรวมปี 2565เป็นอีกปีที่ท้าทาย แต่โดยภาพรวมบริษัทมองว่า จะยังคงเติบโตขึ้นจากคำสั่งซื้อที่กลับมาฟื้นตัวต่อเนื่อง สินค้ากลุ่มซอสซึ่งเป็นสินค้ากลุ่มหลักไฮมาร์จิ้น โดยมีสัดส่วนยอดขายกว่า 80% มีความต้องการจากลูกค้า และยังคงเติบโตได้ในตลาดโลก
** แผนขยายตลาด
รวมทั้งแผนการขยายตลาดในเชิงรุก สานต่อกลยุทธ์การสนับสนุนค่าใช้จ่ายทางการตลาดหรือ Listing Fee ให้กับตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นอยู่ที่ราว 25 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 15 ล้านบาท ตลอดจนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ อาทิ ซอสกัญชง ที่คาดจะเห็นยอดขายที่เพิ่มเติมเข้ามาในปีนี้ หลังจากเริ่มเปิดตลาดในช่วงปลายปี 2564จึงวางเป้าหมายรายได้ในปี 2565 เติบโตราว 10%-15% ทำนิวไฮต่อเนื่อง แม้ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดจากปี 2564 มีรายได้ 1,537.51 ล้านบาท กำไรสุทธิ 462.29 ล้านบาท
และแม้ปัจจัยกระทบในปี 2565บริษัทพยายามบริหารจัดการภายในอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนผลกระทบจากสงครามรัสเซียและยูเครนที่เกิดขึ้น แทบไม่ส่งผลต่อบริษัท จากปัจจุบันสัดส่วนยอดขายหลักอยู่ในทวีปยุโรปกว่า 80%ด้านต้นทุนวัตถุดิบมีการล็อกราคาไว้ล่วงหน้าเพื่อควบคุมความเสี่ยง
** ขยายโรงงานใหม่
อย่างไรก็ดี เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ล่าสุดบริษัทได้ลงทุนซื้อที่ดิน 40 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ แหลมฉบัง ซึ่งเป็นทำเลที่มีคุณภาพสำหรับเตรียมขยายโรงงานใหม่แห่งที่ 4 ในปี 2566 เพิ่มศักยภาพในการผลิต ตลอดจนความมั่นใจให้ลูกค้า ในโรงงานที่ได้มาตรฐาน และมีความทันสมัย บุกตลาดทั่วโลก จึงนับเป็นการลงทุนเพื่อเก็บเกี่ยวในอนาคต จากปัจจุบันใช้กำลังการผลิตในระดับ 75%
บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ส่องหุ้น บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 26.50 บาท อิง 2565 PER ที่ 23x (เทียบเท่า 5-Yr Average PER) คงกำไรปี 2565 ที่ 491 ล้านบาท (+7% YoY) โดยกำไรปี 2564/66 มี Upside จากการขยายไลน์การผลิตกลุ่มซอส โดยจะสามารถ COD ได้เร็วที่สุดในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้คาดเห็นรายได้เพิ่มขึ้นในปี 2566 อีกราว 700-800 ล้านบาท (บนสมติฐาน Utilization Rate 80% ของกำลังการผลิตใหม่) ซึ่งยังไม่ถูกรวมในประมาณกำไร
** แนะนำ “ซื้อ”
ราคาหุ้น Outperform SET +15% ในช่วง 1 เดือน โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจาก 1. กำไรปี 2565 มี Upside จากการขยายไลน์การผลิตซอสราว 7,000 ตันต่อปี และการเพิ่มงบ Listing Fee เป็น 20-25 ล้านบาท และ 2. Valuation น่าสนใจที่ 2565 PER ที่ 19x (-0.5SD Below 5-Yr Average PER) ซึ่งมองว่าราคาหุ้นควรเทรดที่ Premium จาก Net Profit Margin ปี 2565 อยู่ที่ 29% ดีกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 23% และ และมี ROE ในปี 2565 ที่ 33% สูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 7 ปี ที่ 22%