XO ลุยเพิ่มไลน์ผลิตใหม่ กูรูแนะ ’ซื้อ’ รอรับปันผล
#XO #ทันหุ้น – XO เพิ่มไลน์ผลิตใหม่ พร้อมส่งออกในไตรมาส 1/2568 คาดกวาดยอดขาย 1 พันล้านบาท ฟากผู้บริหารมองทิศทางไตรมาส 3/2567 ชะลอตัว แต่จะฟื้นตัวในไตรมาส 4/2567 ส่วนมาร์จิ้นปีนี้คาดทำได้ที่ระดับสูง 45% โบรกมองซอสพริกในตลาดโลกมีโอกาสโตได้อีกมาก แนะ "ซื้อ" รอรับเงินปันผล 6% เป้า 30 บาท
นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 3/2567 บริษัทคาดว่าจะยังชะลอตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2567 แต่เชื่อว่าไตรมาสที่ 4/2567 ผลการดำเนินงานจะอยู่ในระดับที่ดีขึ้น หรือทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาส 2-3/2567
ด้านไลน์การผลิตใหม่ 1 ไลน์ ที่โรงงานเดิมที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ งบลงทุน 200 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จไตรมาส 4/2567 เเละส่งออกได้ในไตรมาสที่ 1/2568 โดยไลน์การผลิตใหม่จะสามารถสร้างยอดขายได้ราว 1,000 ล้านบาทต่อปี
** ปรับลดเป้ารายได้
สำหรับรายได้ในปี 2567 บริษัทคาดว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้เมื่อต้นปี จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตประมาณ 20% เทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้รวมราว 2,533.85 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายในทวีปอเมริกาปรับตัวลดลง แต่ยอดขายโดยรวมยังเติบโตได้ค่อนข้างดีบริษัทจึงมองว่า รายได้รวมอาจจะทำได้ไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้บริษัทยังเชื่อว่าจะทำได้ในระดับที่ 45% มากกว่าปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 40%
โดยงวด 6 เดือนแรกปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า 1,413.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 402.73 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 39.83 สาเหตุหลักเนื่องการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าในกลุ่มซอสปรุงรส และน้ำจิ้มต่างๆ ในทวีปยุโรป
สำหรับกำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรกเท่ากับ 513.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 65.89 จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้น
***ซอสยังโตได้
บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ PI ระบุว่า XO ไตรมาส 3/2567 ยังไม่สดใสจากการสอบถามกับทางบริษัทเบื้องต้นยังคงมุมมองเดิมที่คาดว่ารายได้จะลดลงจากไตรมาส 2/2567 และไตรมาส 3/2566 เพราะส่วนหนึ่งมาจากการที่ลูกค้าเร่งสั่งไปค่อนข้างมากในช่วงครึ่งปีเเรกของปี 2567 และฐานจากตลาดสหรัฐ ที่สูงในปีก่อน (รายได้จากสหรัฐงวดไตรมาส 3/2566 สูงถึง 237 ล้านบาท)
สำหรับเหตุผลที่ XO จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีเเรกของปี 2567 สูงถึง 1.7 บาทต่อหุ้น จากการสอบถามทางบริษัทเบื้องต้นให้เหตุผลว่าปัจจุบันบริษัทมีเงินสดกว่า 800 ล้านบาท ขณะที่โครงการที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินมากอย่างการก่อสร้างโรงงานใหม่มีการเลื่อนไปเป็นครึ่งปีหลังปี 2568 ทางผู้บริหารเลยมีการจ่าย ปันผลเป็นกรณีพิเศษออกมา ซึ่งเราคาดว่างวดครึ่งปีหลัง 2567 จะกลับไปจ่ายในระดับปกติที่อัตราประมาณ 50%
สำหรับคำแนะนำการลงทุน แม้ว่าแนวโน้มในช่วง ไตรมาส 3/2567 จะดูไม่สดใสแต่ด้วยการจ่ายปันผลสูงซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนเงินปันผลกว่า 6% และซอสพริกในตลาดโลกที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อย่างมาก เราจึงแนะนำ "ซื้อ" เพื่อรับเงินปันผลได้ โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 30 บาท และคงกำไรสุทธิไว้ที่ 805 ล้านบาท