สรุปคดี ตึก สตง. ถล่ม 3 คดีย่อย ใครผิดบ้าง? DSI ฟัน 3 บิ๊ก สตง. ฮั้วประมูลเองทุกขั้นตอน

นับเป็นเวลา 68 วัน ในการตามล่าตัวผู้รับผิดชอบ กรณีตึก สตง. ถล่ม จนเป็นเหตุให้มี เสียชีวิตอย่างน้อย 89 ราย บาดเจ็บ 9 ราย และ สูญหาย 7 ราย โศกนาฏกรรมความสูญเสียครั้งใหญ่ ที่สะท้อนให้เห็นปัญหา คอร์รัปชั่น ข้าราชการ ฝังรากลึกยากเกินแก้ ที่ึคนไทยคงตายตาไม่หลับ ถ้ายังจับตัวคนผิด มารับผิดชอบไม่ได้ เพราะ ตึกนี้ คือ โครงการรัฐ ใช้งบก่อสร้างระดับ 2,000 ล้าน แถมยังอยู่ห่างจาก ศูนย์กลางแผ่นดินไหวกว่า 1,300 กิโลเมตร คำถามที่ทั้งประเทศ อดสงสัยไม่ได้ ว่า ทำไม ตึก สตง. จึงพังถล่ม อยู่เพียงตึกเดียว ในประเทศไทย ?
DSI รับคดี — แยก 3 ประเด็นหลัก
เพียง 3 วันหลังเกิดเหตุ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร สั่งตั้งกรรมการสอบสวน ลั่น “เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ” ภายใน 90 วัน ต้องได้คำตอบ ก่อนที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI รับคดีนี้มาดูแล เนื่องจากเป็นคดีใหญ่ เสียหายวงกว้าง เกี่ยวข้องกับ องค์กรรัฐ และ ศรัทธาประชาชน โดย DSI แยกการสอบสวนออกเป็น 3 คดีสำคัญ
1. คดีนอมินี — ใช้คนไทยบังหน้า แต่เป็นของต่างชาติ
บริษัทที่ชนะการประมูลโครงการนี้ ได้เป็นผู้รับเหมา คือ อิตาเลียนไทย และ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) แต่จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 มีกรรมการชาวจีน คือ นายชวน หลิงจาง ถือหุ้นใหญ่ 49% และมี กรรมการคนไทย 3 ราย ถือหุ้น 51% แต่พบพิรุธมากมาย ทั้งสถานที่ตั้งบริษัท เก่าซ่อมซ่อ ในอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นธรรมดา แปะป้ายหลายบริษัทในที่เดียว
ตัวกรรมการคนไทย ยังไม่มีคุณสมบัติเหมาะสม ทั้งด้านการเงินและวิชาชีพ ที่จะดูแลโครงการรัฐระดับพันล้าน หลายคนมีชื่อเป็น กรรมการ ในบริษัทอื่นด้วย อาจเข้าข่ายการเป็น นอมินี ให้ต่างชาติทำธุรกิจแทน ทั้งหมดถูกดำเนินคดีข้อหา ฝ่าฝืนการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว แต่ยังคงปฏิเสธ โดยคดีนี้ มีผู้ต้องหา อีก 1 ราย สัญชาติจีน — อยู่ระหว่างการหลบหนี
2. คดีออกแบบ–ก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน
ผลการสอบสวนชัดเจนว่า ตึก สตง. ถล่ม เพราะการออกแบบและก่อสร้าง ผิดหลักวิศวกรรมอย่างร้ายแรง ไม่ได้มาตรฐาน และ ขัดกับกฎกระทรวงกำหนดไว้ จุดสำคัญคือ “กำแพงปล่องลิฟต์” ซึ่งตามหลักควรอยู่ ศูนย์กลางอาคาร เพื่อรองรับแรงบิด แต่กลับถูกออกแบบให้ ชิดขอบด้านหลัง
ผลคือ เมื่อแรงบิดเกิดขึ้นจากเหตุแผ่นดินไหว ปล่องลิฟต์และเสาชั้นล่าง รับน้ำหนัก อาคารไม่ได้ และ ถล่มพร้อมกัน
อาคารทั้งหลัง 33 ชั้น จึงพังในแนวดิ่ง — แบบที่เรียกว่า “Pancake Collapse”ปูนซีเมนต์ ที่ใช้ ไม่ผ่านค่าความแข็งแรงตามมาตรฐาน KSC
เหล็กเส้น บางส่วนไม่ตรงตามแบบที่ได้รับอนุมัติก่อสร้าง
ที่สำคัญพบว่าโครงการนี้มีการ ปลอมลายเซ็นวุฒิวิศวกร ชื่อ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข เพื่อให้โครงการผ่าน — ทั้งที่เจ้าตัว ไม่เคยควบคุมงานจริง
ซึ่งจากผลการสอบสวนทั้งหมด ทำให้เจ้าหน้าที่ ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 17 ราย ในฐานความผิดตาม มาตรา 227 / 238 ของประมวลกฎหมายอาญา ว่าด้วยการออกแบบ/ก่อสร้างโดยไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
แบ่งพฤติการณ์ เป็น 3 กลุ่มหลัก:
🔹 กลุ่มที่ 1: บริษัทผู้ออกแบบตึก (6 ราย)
ผู้บริหารจากบริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด
และ บริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด
พร้อมวิศวกรโครงสร้างที่ลงนามตรวจสอบในแบบแปลน
🔹 กลุ่มที่ 2: บริษัทควบคุมการก่อสร้าง (5 ราย) กิจการร่วมค้า PKW ได้แก่
บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด
บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด
บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนตส์ จำกัด
🔹 กลุ่มที่ 3: บริษัทผู้รับจ้างก่อสร้าง (6 ราย)จาก
บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
และ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย)
รวมถึง นายเปรมชัย กรรณสูต และ นายชวน หลิงจาง ด้วย
3. คดีฮั้วประมูล — พบว่ามี บิ๊กข้าราชการ สตง. เอี่ยวด้วย
แน่นอนว่าน่าสงสัย ว่าเพราะเหตุผลอะไรที่ทำให้มีบริษัท ร่วมกระทำความผิดเยอะขนาดนี้ แสดงว่ามันอาจต้องมี การฮั้วประมูล เอื้อให้บริษัทเหล่านี้ ได้รับงานนี้อย่างแน่นอน ดีเอสไอ ได้สืบสวนขยายผล 121 ลังเอกสาร และ พยานกลุ่มบริษัทที่ยื่นซองประมูล จนพบความผิดปกติ เกี่ยวกับการได้มาซึ่งสัญญา 3 ฉบับ ประกอบด้วย
สัญญารับเหมาก่อสร้าง
สัญญาการออกแบบ
สัญญาการควบคุมงาน
ดีเอสไอ พบขบวนการโกงครบวงจร : ได้ผู้ต้องหา 9 ราย รวมบิ๊กข้าราชการ
ผู้บริหารกิจการร่วมค้า PKW 6 ราย
ผู้บริหารระดับสูงของ สตง. 3 ราย
▪ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (ยศ พลเอก ช.) (มีหน้าที่ทำนโยบายและดูแลการทำงาน สตง.อีกที)
▪ อดีตผู้ว่าการ ตรวจเงินแผ่นดิน
▪ เลขานุการ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
โกงหมดแทบทุกขั้นตอน
ล็อคสเปค บริษัทชนะประมูล เช่น การออกแบบโครงสร้างตึก เจาะจงเลือก บ. ไมนฮาร์ท มาเขียนแบบ เพื่อเอื้อให้บริษัทจีนที่ตัวเองรู้จัก
(กิจการร่วมค้า ITD-CREC ) ให้ได้ก่อสร้าง เอาบริษัทควบคุมงานพรรคพวกกันมาใช้ (กิจการร่วมค้า PKW) และไม่ได้ควบคุมงานจริง
จึงต้องมีการปลอมลายเซ็นวุฒิวิศวกร เพื่อให้งานผ่านไปได้ง่ายๆ แม้ไม่ได้มาตรฐาน
ซึ่งถามว่าทำไมถึงทำได้ DSI พบเส้นความสัมพันธ์ว่า อดีตผู้ว่าฯ สตง. เป็น 1 ในเจ้าของร่วม กิจการร่วมค้า PKW จุดนี้นี่แหละ ที่ทำให้เขาสามารถเข้าไปมีอิทธิพลได้ในทุกขั้นตอน
คดีนี้กำลังไปถึงไหน?
ขณะนี้ DSI เตรียมส่งสำนวนคดี ให้ ป.ป.ช. เพื่อส่งต่อ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ พิจารณาว่า
จะไต่สวนเอง หรือ
มอบหมายให้ DSI ดำเนินการต่อ
หาก ปปช. รับไว้ ก็จะเข้าสู่ขั้นตอน ไต่สวน – ชี้มูลความผิด – ส่งฟ้องต่อศาล เพื่อลงโทษผู้ทำผิดทั้งหมดต่อไป
นี่คือ สาเหตุที่ทำให้ ตึก สตง. ถล่ม ไม่ใช่เพราะแผ่นดินไหว เแต่เพราะ ข้าราชการคอร์รัปชั่น ผลาญงบภาษีของประชาชน
และรายการ TNN Story Teller จะจับตาคดีนี้…จนกว่าคดีจะไปจบที่ศาล และ คนผิดได้รับโทษ เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิต
และ ประชาชน ผู้เป็นเจ้าของ งบประมาณ 900 ล้านที่จ่ายไปเรียบร้อยแล้ว แต่เหลือทิ้งไว้แค่ เศษซากปรักหักพัง ของศรัทธาประชาชน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
