รีเซต

เมื่อซีรีส์ยอดนิยม "The Glory" จุดประเด็นร้อนทางสังคม บาดแผลจาก "ฝันร้าย" ที่ไม่มีวันลืม

เมื่อซีรีส์ยอดนิยม "The Glory" จุดประเด็นร้อนทางสังคม บาดแผลจาก "ฝันร้าย" ที่ไม่มีวันลืม
TNN ช่อง16
12 มกราคม 2566 ( 19:45 )
486
เมื่อซีรีส์ยอดนิยม "The Glory" จุดประเด็นร้อนทางสังคม บาดแผลจาก "ฝันร้าย" ที่ไม่มีวันลืม

เมื่อซีรีส์ยอดนิยม "The Glory" จุดประเด็นร้อนทางสังคมในเรื่องความรุนแรง ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า จากความดังของซีรีส์เกาหลีใต้อย่าง "The Glory" จะเป็นตัวกระตุ้นที่นำไปสู่ประเด็นในการพูดถึงเรื่องการกลั่นแกล้งหรือรังแกกันในโรงเรียน 

เพราะการ บูลลี่ (Bully) ที่ในเนื้อเรื่องนำเสนอด้านพฤติกรรมที่รุนแรง ไม่เพียงสร้างบาดแผลทางร่างกายแต่ทว่า...กลับสร้างความเจ็บปวดฝั่งลึกลงไปทางจิตใจของคนที่ถูกเรียกว่า "เหยื่อ"

"The Glory" ได้บอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่ง หลายปีหลังผ่านพ้นชีวิตวัยเรียนที่เธอเคยถูกข่มเหง รังแกสารพัดจากเพื่อนร่วมโรงเรียนมัธยมของเธอ เธอจึงเริ่มปฏิบัติการแก้แค้น เพื่อลงโทษคนที่ทำให้เธอเจ็บ... ให้เจ็บยิ่งกว่า

แต่ก็เกิดคำถามว่าในชีวิตจริง จะมีใครสักกี่คนที่สามารถลุกขึ้นมาทำเรื่องราวแก้แค้นคนที่เคยกระทำแบบในตัวละครของหญิงสาวคนดังกล่าวได้หรือไม่?

แล้วรู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วซีรีส์ "The Glory" นั้นสร้างมาจากคดีจริงที่เป็นแรงบันดาลใจถึงฉากกลั่นแกล้ง และ "เหยื่อ" ในชีวิตจริงก็ยังคงต่อสู้เพื่อความยุติธรรม

ภาพจาก อินสตาแกรม netflixkr


ยกตัวอย่างฉากหนึ่งใน "The Glory" ได้เล่าถึงความเป็นจริงอันโหดร้าย นอกจากการทำร้ายจิตใจและร่างกายอย่างรุนแรง โดยผู้ที่รังแก "เหยื่อ" ในเรื่อง ยังทำร้ายร่างกายของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยการใช้ที่ม้วนผมทำให้ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลไฟไหม้

แม้ว่าการกลั่นแกล้งจะเป็นการกระทำที่มีการประณามในทุกที่ว่าไม่ควรเกิดขึ้นกับใครเลย แต่ในเกาหลีใต้ นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ เด็กนักเรียนหลายๆ คน ถูกกระทำด้วยความรุนแรงบ่อยครั้ง และเรื่องเหล่านี้ประเทศเกาหลีใต้มักสะท้อนออกมาในรูปแบบซีรีส์หรือภาพยนตร์หลายๆ เรื่องเช่นเดียวกับ "The Glory" เพื่อให้เด็กและเยาวชน ต่างตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมาภายหลังการกระทำของตัวเอง

ความรุนแรงที่ปรากฏในซีรีส์ "The Glory" ทำให้แฟนๆ ต่างประเทศประหลาดใจอย่างมาก หลายๆ คนสงสัยว่าการกลั่นแกล้งในเกาหลีใต้จะถึงจุดจบแบบนี้จริงๆ หรือเป็นเพราะบทเกินจริง 

แต่ปรากฎว่าการกลั่นแกล้ง โดยการเผาไหม้ในการแสดงนั้นมีพื้นฐานมาจากเหตุการณ์ในชีวิตจริง

ภาพจาก อินสตาแกรม netflixkr


ตามรายงานของสื่อเกาหลีใต้ ในปี 2020 เหตุการณ์การกลั่นแกล้งปรากฏขึ้นซึ่งทำให้เกาหลีใต้ตกตะลึง ชายหนุ่มวัย 22 ปีรายหนึ่ง ถูกคนรู้จักจุดไฟเผาในวันเกิดของเขาเพื่อเป็นการ "แกล้ง" 

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2020 เขาซึ่งในขณะนั้นอายุ 22 ปี ได้รับโทรศัพท์จากกลุ่มคนรู้จักที่ขอให้เขามาฉลองวันเกิด เขาถูกลากไปยังพื้นที่ว่างและถูกมัดไว้กับเก้าอี้ คลุมหน้าด้วยฮู้ด จากนั้นคนกลุ่มนั้นก็ฉีดสเปรย์น้ำมันไปทั่วร่างกายของเขาและเริ่มจุดดอกไม้ไฟที่หัวเข่าทั้งสองข้าง ในที่สุดเมื่อระเบิด ร่างของเขาก็ลุกเป็นไฟ

จากเหตุการณ์ดังกล่าว เขาได้รับบาดแผลไฟไหม้ระดับ 3 บนร่างกาย 40% ครอบครัวต้องการดำเนินคดีทางกฎหมาย แต่ก็ถูกบังคับให้ทำข้อตกลงทางการเงิน ในที่สุดผู้กระทำผิดก็หนีไปได้ด้วยการคุมประพฤติเท่านั้น 

ในทางกลับกัน การรักษาของเขามีค่าใช้จ่ายมากกว่า 100 ล้านวอน  ซึ่งมากกว่าสองเท่าของเงินที่ใช้ในการยุติคดี เมื่อครอบครัวของเขาขอให้ผู้กระทำความผิดจ่ายค่ารักษา พวกเขาปฏิเสธว่าไม่มีเงิน ขณะนี้ครอบครัวของเขาได้ยื่นฟ้องทางแพ่งเพิ่มเติมเพื่อจัดการกับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น

และจากความนิยมของ "The Glory" คดีของเขาได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งบนอินเทอร์เน็ตของเกาหลี ทำให้ชาวเน็ตโกรธแค้นกับวิธีจัดการกับคดีนี้

เรื่องนี้ยังมีผลกระทบลามมาถึงประเทศไทย เมื่อ "โอม ภวัต" นักแสดงชาวไทยยอดนิยม ต้องออกมาขอโทษสำหรับการกระทำในอดีตของเขา เพื่อนสมัยเรียนของ "โอม ภวัต" ได้เริ่มโพสต์ทวิตเตอร์ถึงเรื่องราวการถูกรังแกในสมัยมัธยมจนเป็นที่มาของแฮชแท็ก #โอมภวัตออกมาพูดเถอะ

เกือบหนึ่งสัปดาห์หลังจากข้อกล่าวหาปรากฏขึ้น "โอม ภวัต" ได้ใช้โซเชียลมีเดียโพสต์ขอโทษ โดยอธิบายว่า เป็นการเล่นคึกคะนองแบบเด็กผู้ชาย โดยไม่ได้มีเจตนาจะก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ดี เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นบทเรียนราคาแพง สิ่งที่เกิดขึ้นรู้สึกผิดตลอดชีวิต และไม่เคยให้อภัยตัวเองจากความคึกคะนองในวัยเด็ก

ภาพจาก อินสตาแกรม ohmpawat





ขอยกตัวอย่างผลกระทบของคนดังจากพฤติกรรมความรุนแรงในสมัยเรียน หากยังจำกันได้เพราะเป็นข่าวใหญ่โตทั้งในเกาหลีใต้และในไทย เมื่อนักแสดงชายชื่อดัง "จีซู" (Jisoo) ที่เคยฝากผลงานไว้ในซีรีส์สุดฮิต Doctors, Moon Lovers, Weightlifting Fairy Kim Bok Joo และอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ ตอนนั้น "จีซู" กำลังมีผลงานซีรีส์เรื่อง River Where the Moon Rises เขาถูกกล่าวหาว่าใช้ความรุนแรงในโรงเรียน เป็นหัวโจกคอยบูลลี่และทำร้ายเพื่อนๆ 

แม้ต่อมา "จีซู" จะได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการโพสต์ขอโทษอย่างสุดซึ้ง แต่ในเกาหลีใต้ถือเป็นเรื่องใหญ่ เป็นพฤติกรรมที่ทำเอาแฟนคลับหลายคนถึงกับรับไม่ได้ 

จนในที่สุด "จีซู" ถูกสั่งปลดจากซีรีส์ River Where the Moon Rises  แม้ว่าจะถ่ายทำไปกว่า 90% และออกอากาศ 6 ตอนไปแล้วก็ตาม และจนตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผลงานออกมาให้แฟนๆ ได้ชมอีกเลย

ภาพจาก อินสตาแกรม actor_jisoo


เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า "คำขอโทษ" ไม่ใช่ว่าจะจบลงง่ายๆ บางครั้งกลับทำให้คนส่วนใหญ่ไม่พอใจ แม้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะเกิดจากการทำผิดพลาดในอดีต 

แต่ถ้าหากมองในมุมของ "เหยื่อ" แล้วนั้น กรณีของการ "บูลลี่" กลั่นแกล้ง รังแก มักเป็นบาดแผลที่ฝังลึกไม่เคยลืมเลือน ต่อให้เวลาผ่านมายาวนานเท่าไหร่แล้วก็ตาม คนที่ขึ้นว่าเป็น "เหยื่อ" ในชีวิตความเป็นจริง หากนึกถึงเรื่องราวเหล่านั้น แทบจะไม่มีรอยยิ้มกลับคืนมาได้เลย



ภาพจาก AFP / อินสตาแกรม netflixkr / actor_jisoo / ohmpawat

ข่าวที่เกี่ยวข้อง